ไม่ใช้สิทธิ์ที่ตนมีอยู่เมื่อถึงคราวจะใช้, ทับสิทธิ์ ก็ว่า.
ประเภทสำนวน
"นอนหลับทับสิทธิ์" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นถ้อยคำเปรียบเปรยที่มีความหมายแฝง ผู้ฟังต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่คำหรือวลีเฉพาะที่แปลตรงตัวไม่ได้เหมือนสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเปรยถึงการละเลยหรือไม่ใช้สิทธิของตนเอง โดยเฉพาะสิทธิที่พึงมีตามกฎหมายหรือตามสถานะ เช่น สิทธิในการเลือกตั้ง สิทธิในการแสดงความคิดเห็น หรือสิทธิในการรับบริการต่างๆ ซึ่งเมื่อไม่ใช้ก็เหมือนกับการนอนทับสิทธิ์ของตนเองไว้โดยไม่นำออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์
ตัวอย่างการใช้สำนวน "นอนหลับทับสิทธิ์" ในประโยค
- คนไทยจำนวนมากยังนอนหลับทับสิทธิ์ไม่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ทั้งที่เป็นหน้าที่พลเมืองที่สำคัญ
- ถ้าคุณไม่ไปร้องเรียนเมื่อถูกเอาเปรียบจากบริษัท ก็เท่ากับนอนหลับทับสิทธิ์ที่คุณพึงได้รับการชดเชยตามกฎหมาย
- หลายคนนอนหลับทับสิทธิ์ไม่ยอมตรวจสอบสิทธิประกันสังคมหรือสวัสดิการที่ตนเองมี ทำให้เสียโอกาสไปมากมาย
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี