ดูหมิ่นหรือคิดร้ายกับผู้ที่เป็นที่เคารพของคนทั่วไปหรือมีฐานะสูงกว่าตน อนาคตอันใกล้จะเกิดผลร้ายกับตน
ประทุษร้ายต่อสิ่งที่สูงกว่าตน ตัวเองย่อมได้รับผลร้าย
ประเภทสำนวน
"ถ่มน้ำลายรดฟ้า" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยหรือเปรียบเทียบพฤติกรรมที่มีความหมายแฝง ไม่ได้สอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และผู้ฟังต้องตีความเพิ่มเติม
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีแนวคิดจากการกระทำที่เป็นไปไม่ได้ คือการถ่มน้ำลายขึ้นไปบนท้องฟ้า ซึ่งในที่สุดน้ำลายนั้นก็จะตกลงมาโดนตัวผู้ถ่มเอง เปรียบเปรยถึงการที่คนพูดจาดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรือว่าร้ายผู้ที่มีฐานะหรือบุญคุณเหนือกว่าตน ซึ่งสุดท้ายผลร้ายก็จะกลับมาสู่ตัวผู้พูดเอง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ถ่มน้ำลายรดฟ้า" ในประโยค
- การที่เธอไปพูดใส่ร้ายผู้มีพระคุณอย่างนี้ เหมือนกับถ่มน้ำลายรดฟ้า สุดท้ายก็จะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเธอเอง
- พนักงานคนนั้นกล้าวิจารณ์เจ้านายลับหลัง แต่ไม่นานความก็รู้ถึงหู ถูกลงโทษอย่างหนัก นี่แหละที่เรียกว่าถ่มน้ำลายรดฟ้า
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"ถ่มน้ำลายรดฟ้า" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเทียบที่มีความหมายแฝง ต้องตีความเพิ่มเติม แสดงถึงพฤติกรรมหรือลักษณะบางอย่างโดยใช้การเปรียบเทียบให้เห็นภาพ ไม่ใช่คำสอนโดยตรง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากการเปรียบเปรยถึงการกระทำที่ไร้ประโยชน์และย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง เมื่อคนถ่มน้ำลายขึ้นไปบนฟ้า น้ำลายนั้นไม่สามารถไปถึงฟ้าได้ และจะตกลงมาโดนหน้าผู้ถ่มเอง เปรียบกับการพูดจาวิพากษ์วิจารณ์หรือด่าทอผู้ที่อยู่ในฐานะสูงกว่าหรือผู้มีอุปการคุณ ซึ่งในที่สุดก็จะย้อนกลับมาทำให้ตนเองเสียหาย
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ถ่มน้ำลายรดฟ้า" ในประโยค
- การที่เธอวิพากษ์วิจารณ์หัวหน้าต่อหน้าลูกน้องคนอื่นๆ นั่น มันเหมือนถ่มน้ำลายรดฟ้า สุดท้ายก็จะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองนั่นแหละ
- การด่าว่าพ่อแม่ตัวเองต่อหน้าคนอื่นก็เหมือนกับถ่มน้ำลายรดฟ้า นอกจากจะไม่ได้ประโยชน์อะไรแล้ว ยังทำให้คนมองว่าเราเป็นคนอกตัญญูอีกด้วย
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี