ประเภทสำนวน
"ตัวใครตัวมัน" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเปรยที่มีความหมายแฝง ใช้สื่อถึงลักษณะพฤติกรรมของคนที่ต่างคนต่างอยู่ ไม่ช่วยเหลือกัน ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่วลีเฉพาะที่แปลตรงตัวไม่ได้เหมือนสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้สะท้อนสภาพของสังคมที่แต่ละคนมุ่งรักษาผลประโยชน์ของตนเอง ไม่สนใจและไม่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือผู้อื่น มีความเห็นแก่ตัว ไม่มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่หรือความสามัคคี เปรียบเหมือนต่างคนต่างอยู่ ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ดูแลเฉพาะตัวเองเท่านั้น
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ตัวใครตัวมัน" ในประโยค
- ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดี ทุกคนก็เลยตัวใครตัวมัน ไม่มีใครช่วยใครแล้ว
- พอบริษัทประกาศลดพนักงาน พวกเราที่เคยสนิทกันก็กลายเป็นตัวใครตัวมัน ต่างคนต่างหาทางเอาตัวรอด
- สังคมทุกวันนี้เป็นแบบตัวใครตัวมัน แม้แต่เพื่อนบ้านก็ไม่รู้จักกัน
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี