ประเภทสำนวน
"ตัดบัวยังเหลือใย" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนโดยตรงที่ให้ข้อคิดเรื่องการรักษาน้ำใจและความสัมพันธ์ระหว่างกัน เข้าใจได้ทันทีว่าแม้ต้องยุติความสัมพันธ์ ก็ควรรักษาน้ำใจไว้บ้าง มีลักษณะเป็นคำสอนที่สมบูรณ์ในตัวเอง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้มีที่มาจากการตัดดอกบัว ซึ่งแม้จะตัดก้านดอกบัวเพื่อนำไปใช้งาน แต่ก็ยังเหลือใยบัวหรือเส้นใยในก้านบัวไว้ เปรียบเสมือนการยุติความสัมพันธ์กับผู้อื่น แม้จะต้องตัดขาดไป แต่ก็ควรรักษาน้ำใจและความรู้สึกดีๆ ไว้บ้าง ไม่ควรทำให้อีกฝ่ายเจ็บช้ำน้ำใจจนหมดสิ้น
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ตัดบัวยังเหลือใย" ในประโยค
- ถึงเราจะต้องเลิกร้างกัน แต่ก็ควรตัดบัวยังเหลือใย ไม่ควรพูดจาทำร้ายจิตใจกันให้บาดหมาง
- บริษัทจำเป็นต้องปลดพนักงานบางส่วน แต่ก็ทำแบบตัดบัวยังเหลือใย ด้วยการจ่ายค่าชดเชยอย่างเหมาะสมและช่วยหางานใหม่ให้
- ถึงจะต้องยุติการเป็นหุ้นส่วนกัน แต่เราก็ควรตัดบัวยังเหลือใย เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันไว้
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี