ไม่ช่วยตัวเอง ประมาณว่าขนาดตกน้ำ แล้วยังไม่ดิ้นรนว่ายน้ำช่วยตัวเอง
ประเภทสำนวน
"ตกน้ำไม่ว่าย" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำพังเพย เพราะเป็นการเปรียบเปรยพฤติกรรมมนุษย์ที่ไม่พยายามช่วยเหลือตัวเองยามตกอยู่ในภาวะลำบาก มีความหมายแฝงที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่คำที่มีความหมายเฉพาะอย่างสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเทียบกับสถานการณ์ของคนที่ตกลงไปในน้ำแล้วไม่ยอมว่ายน้ำเพื่อเอาตัวรอด แต่รอให้คนอื่นมาช่วย เป็นการเปรียบให้เห็นถึงคนที่ไม่พยายามช่วยเหลือตัวเอง ไม่ดิ้นรน ไม่ต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรค แต่รอคอยความช่วยเหลือจากผู้อื่น ทั้งที่ตนเองมีศักยภาพหรือความสามารถพอที่จะจัดการแก้ไขปัญหานั้นได้
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ตกน้ำไม่ว่าย" ในประโยค
- น้อยเป็นคนตกน้ำไม่ว่ายเสมอ ทุกครั้งที่มีปัญหาจะต้องรอให้คนอื่นมาช่วยแก้ไข
- หากเธอยังนิสัยตกน้ำไม่ว่ายแบบนี้ ชีวิตในอนาคตคงลำบากแน่ เพราะโลกนี้ไม่มีใครมาช่วยเราตลอด
- การเลี้ยงลูกให้ตกน้ำไม่ว่าย จะทำให้เขาขาดทักษะการแก้ปัญหาเมื่อเติบโตขึ้น
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี