บังเอิญเป็นไปโดยไม่ตั้งใจ
ประเภทสำนวน
"จับพลัดจับผลู" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเปรยที่มีความหมายแฝง ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่เพียงวลีที่มีความหมายเฉพาะเหมือนสำนวนไทย แต่เป็นการเปรียบเทียบลักษณะการกระทำที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญหรือไม่ได้ตั้งใจ
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
มีที่มาจากการประกอบกิจกรรมต่างๆ ในสมัยก่อน ทั้งการดักสัตว์หรือจับปลา บางครั้งเราอาจจับสัตว์ที่ไม่ได้ตั้งใจจะจับได้โดยบังเอิญ 'พลัด' และ 'ผลู' เป็นคำโบราณที่ใช้ในบริบทของการจับหรือได้มาโดยไม่ได้ตั้งใจ คำพังเพยนี้จึงใช้อธิบายสถานการณ์ที่คนเราทำอะไรสำเร็จหรือได้อะไรมาโดยไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า
ตัวอย่างการใช้สำนวน "จับพลัดจับผลู" ในประโยค
- เขาไปงานเลี้ยงโดยไม่ได้คาดหวังอะไร แต่กลับได้จับพลัดจับผลูพบรักกับเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนานหลายปี
- ผมไม่ได้ตั้งใจจะเป็นนักแสดง แต่จับพลัดจับผลูได้รับการชักชวนให้มาแสดงละครเวที จนมีชื่อเสียงในวงการบันเทิง
- เธอจับพลัดจับผลูได้ทำงานชิ้นนี้ที่ไม่ใช่ความถนัด แต่กลับทำได้ดีกว่าที่คาดไว้มาก
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี