งงมากจนทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะทำยังไง
ประเภทสำนวน
"งงเป็นไก่ตาแตก" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความที่เปรียบเปรยสภาพความรู้สึกงุนงงของคนกับอาการของไก่ที่ตาแตก มีความหมายแฝงที่ต้องตีความ ไม่ใช่คำสอนโดยตรง (ไม่ใช่สุภาษิต) และมีลักษณะเป็นการเปรียบเทียบที่ต้องตีความ
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเทียบความงุนงงสับสนของคนกับอาการของไก่ที่ถูกตีจนตาแตก (หรืออาจมีที่มาจากลักษณะของไก่ที่เวลาตกใจหรือสับสนมักจะหมุนวนไปมา) เป็นการแสดงถึงสภาวะที่คนเกิดความสับสนอย่างหนัก ไม่สามารถทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เหมือนไก่ที่วิ่งวนไปมาอย่างไร้ทิศทาง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "งงเป็นไก่ตาแตก" ในประโยค
- ครูอธิบายสูตรคณิตศาสตร์ยากมาก ทำให้นักเรียนทั้งห้องงงเป็นไก่ตาแตก
- เมื่อผู้บรรยายพูดสลับไปมาระหว่างภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ผู้ฟังที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษต่างงงเป็นไก่ตาแตก
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี