หากเป็นเนื้อคู่กัน จะอยู่ไกลคนละฟากฟ้า ก็หาทางมารักกัน ชอบพอกัน ได้เสมอ เปรียบดังไร้พรมแดนใด ๆ มาขวางกั้นความรักได้
ประเภทสำนวน
"ความรักไม่มีพรมแดน" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยเกี่ยวกับลักษณะของความรักที่ไม่มีขอบเขตจำกัด ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ได้ให้คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และเป็นการเปรียบเทียบแนวคิดเรื่องความรักกับพรมแดนทางภูมิศาสตร์
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้หมายถึงความรักเป็นสิ่งที่ไม่มีขอบเขตจำกัด ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ ศาสนา หรือวัฒนธรรม ความรักสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกคนโดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ มาขวางกั้น แสดงให้เห็นถึงพลังของความรักที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ ทางสังคมหรือวัฒนธรรมได้
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ความรักไม่มีพรมแดน" ในประโยค
- แม้เธอจะเป็นคนอเมริกัน ส่วนฉันเป็นคนไทย แต่ความรักไม่มีพรมแดน เราก็สามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างมีความสุข
- คู่รักต่างศาสนาหลายคู่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความรักไม่มีพรมแดน พวกเขาสามารถอยู่ร่วมกันได้ด้วยความเคารพในความแตกต่าง
- ในเทศกาลดนตรีระดับโลก เราได้เห็นว่าความรักไม่มีพรมแดน คนจากทั่วทุกมุมโลกมารวมตัวกันด้วยความรักในเสียงดนตรี
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี