กินกําไร ยักเอาเพียงบางส่วนที่มีจํานวนเล็กน้อยไว้ ยักเอาส่วนที่เหลือไว้เป็นของตนเอาเพียงบางส่วนไว้เป็นของตน
ประเภทสำนวน
"กินเศษกินเลย" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นการเปรียบเปรยถึงพฤติกรรมของคนที่คอยหาประโยชน์จากเศษเหลือหรือส่วนที่เหลือจากผู้อื่น ไม่ใช่คำสอนโดยตรง (สุภาษิต) และมีความหมายเฉพาะที่ต้องตีความเพิ่มเติม
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากพฤติกรรมการกินอาหารที่เหลือหรือส่วนที่คนอื่นไม่ต้องการแล้ว ใช้เปรียบเทียบถึงคนที่หาผลประโยชน์จากเศษเหลือหรือส่วนที่เหลือจากผู้อื่น หรือรับประโยชน์ในส่วนที่เล็กน้อยซึ่งคนสำคัญไม่ได้รับหรือไม่สนใจ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "กินเศษกินเลย" ในประโยค
- พวกนักการเมืองท้องถิ่นพวกนี้ชอบกินเศษกินเลยจากโครงการใหญ่ๆ ของรัฐบาล
- เขาเป็นพวกกินเศษกินเลย คอยรับงานเล็กๆ น้อยๆ ที่บริษัทใหญ่ไม่ทำ แต่ก็พอมีรายได้เลี้ยงตัวได้
- นายหน้าอสังหาฯ รายย่อยมักจะกินเศษกินเลยจากโครงการบ้านจัดสรรที่ขายไม่หมด
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี