ประเภทสำนวน
"กินเกลือกินกะปิ" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเทียบที่มีความหมายแฝง มีลักษณะเปรียบเปรยถึงการมีประสบการณ์ชีวิตมามาก โดยใช้อาหารมาสื่อความหมาย แต่ไม่ได้เป็นคำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่คำหรือวลีเฉพาะที่ไม่สามารถแปลตรงตัวได้เหมือนสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากการเปรียบเทียบกับการรับประทานเครื่องปรุงรสพื้นฐานในครัวไทย คือเกลือและกะปิ ซึ่งเป็นของที่ใช้กันมานาน บ่งบอกถึงการผ่านโลกมามาก มีประสบการณ์ชีวิตสูง เปรียบเสมือนคนที่ได้ลิ้มรสชาติต่างๆ ของชีวิตมาแล้ว ทั้งรสหวานและรสขม จึงมีความเข้าใจชีวิตลึกซึ้ง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "กินเกลือกินกะปิ" ในประโยค
- คุณลุงคนนี้กินเกลือกินกะปิมามากกว่าอายุหนู เรื่องแบบนี้เขารู้ทันหมดแหละ
- อย่าคิดว่าจะมาหลอกผมได้นะ ผมกินเกลือกินกะปิมาก่อนคุณเกิดเสียอีก
- คนที่กินเกลือกินกะปิมามาก มักจะมองทะลุเล่ห์เหลี่ยมของคนได้ง่าย
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี