ประเภทสำนวน
"กินลมกินแล้ง" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำที่มีลักษณะเปรียบเทียบ ต้องตีความความหมายแฝง ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่คำหรือวลีเฉพาะที่มีความหมายพิเศษเหมือนสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเทียบถึงการอยู่อย่างอดอยาก ไม่มีอาหารกิน จนเหมือนกับต้องกินแต่ลมและความแห้งแล้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ สะท้อนถึงความยากจนและการขาดแคลนอย่างหนัก
ตัวอย่างการใช้สำนวน "กินลมกินแล้ง" ในประโยค
- ถ้าลูกไม่ตั้งใจเรียนหนังสือให้ดี โตขึ้นมาอาจต้องกินลมกินแล้งนะ
- ช่วงที่ประสบภัยแล้ง ชาวนาหลายครอบครัวแทบกินลมกินแล้ง เพราะปลูกข้าวไม่ได้ ไม่มีรายได้
- หลังจากถูกไล่ออกจากงาน เขาไม่มีรายได้ ต้องกินลมกินแล้งอยู่หลายเดือนกว่าจะหางานใหม่ได้
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี