จําต้องยอมเป็นรองเขา ไม่เทียมหน้าเทียมตาเท่า
มักหมายถึงเมียน้อยที่ต้องยอมลงให้แก่เมียหลวง
เมียน้อยต้องยอมรับของเหลือเดนจากเมียหลวงตกเป็นรองด้านศักดิ์ศรี
ประเภทสำนวน
"กินน้ำใต้ศอก" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีที่มีความหมายเฉพาะ ไม่สามารถตีความได้จากความหมายตรงตัวของคำ 'กินน้ำใต้ศอก' ไม่ได้หมายถึงการกินน้ำที่อยู่ใต้ศอกจริงๆ แต่เป็นการเปรียบเทียบถึงสถานการณ์ที่ต้องยอมจำนนหรือเสียเปรียบผู้อื่น
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากการเปรียบเทียบกับสภาพที่ต้องก้มตัวลงต่ำมากๆ จนต้องกินน้ำที่อยู่ใต้ข้อศอกของคนอื่น ซึ่งเป็นสถานะที่ต่ำต้อยและลำบาก แสดงถึงการที่ต้องยอมเสียเปรียบ หรือยอมอยู่ใต้อำนาจของผู้อื่นอย่างไม่มีทางเลือก
ตัวอย่างการใช้สำนวน "กินน้ำใต้ศอก" ในประโยค
- พอบริษัทถูกซื้อกิจการ พนักงานเก่าที่เคยมีอำนาจต้องกินน้ำใต้ศอกเจ้านายใหม่ไปหมด
- ฉันยอมกินน้ำใต้ศอกเขาชั่วคราว เพื่อรอโอกาสที่จะพลิกสถานการณ์กลับมาได้
- หลายคนทนทำงานหนักและกินน้ำใต้ศอกเจ้านายเพราะกลัวตกงานในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"กินน้ำใต้ศอก" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีที่มีความหมายเฉพาะ ไม่สามารถเข้าใจได้จากการแปลตรงตัว ต้องตีความเป็นการอยู่ภายใต้อำนาจหรืออิทธิพลของผู้อื่น ไม่มีลักษณะเป็นคำสอนโดยตรงหรือการเปรียบเทียบชัดเจน
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากท่าทางการดื่มน้ำที่ต้องก้มหน้าลงเพื่อดื่มน้ำใต้ศอกของคนอื่น ซึ่งเป็นท่าที่ลำบากและแสดงถึงความเสียเปรียบ หรือการตกอยู่ภายใต้อำนาจของคนอื่น ต้องคอยเกรงใจและทำตามที่เขาต้องการ ไม่มีอิสระในการตัดสินใจด้วยตนเอง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "กินน้ำใต้ศอก" ในประโยค
- หากยอมรับข้อเสนอของเขา ต่อไปก็ต้องกินน้ำใต้ศอกเขาไปตลอด ไม่มีทางได้ทำอะไรตามใจตัวเองอีกเลย
- ฉันไม่อยากกินน้ำใต้ศอกนายทุนพวกนั้นหรอก เลยตัดสินใจลาออกมาเปิดธุรกิจเล็กๆ ของตัวเอง
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี