ประเภทสำนวน
"กินที่ลับไขที่แจ้ง" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความที่เปรียบเปรยพฤติกรรมบางอย่างของมนุษย์ โดยมีความหมายแฝงที่ต้องตีความเพิ่มเติม มีลักษณะการเปรียบเทียบพฤติกรรม ไม่ใช่คำสอนโดยตรง และไม่ใช่คำที่มีความหมายเฉพาะที่ไม่สามารถแปลตรงตัวได้
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้หมายถึง การทำอะไรในที่ลับโดยไม่ให้ใครเห็น แต่กลับมาเปิดเผยหรือแสดงออกในที่แจ้ง มีที่มาจากการเปรียบเทียบกับไก่ ที่มักจะกินอาหารในที่ลับหรือซ่อนเร้น แต่กลับไขในที่แจ้งหรือที่ที่คนอื่นเห็นได้ สำนวนนี้มักใช้เปรียบเทียบคนที่ทำความผิดหรือทำสิ่งไม่ดีในที่ลับ แต่กลับมีหลักฐานหรือร่องรอยปรากฏให้ผู้อื่นรู้ในภายหลัง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "กินที่ลับไขที่แจ้ง" ในประโยค
- พวกโจรขโมยทรัพย์สินของชาวบ้านไปแล้วยังกล้าเอามาอวดกัน นี่คือกินที่ลับไขที่แจ้งชัดๆ ตำรวจเลยจับได้ไม่ยาก
- สุรศักดิ์ทุจริตเงินบริษัทแล้วยังเอาไปซื้อรถหรูมาขับอวดเพื่อนๆ นี่ถ้าไม่ใช่กินที่ลับไขที่แจ้ง ก็ไม่รู้จะเรียกอะไรแล้ว
- เรื่องที่ทำลับหลังคนอื่นมันก็ควรจะเป็นความลับต่อไป แต่นี่ดันมากินที่ลับไขที่แจ้ง เลยโดนจับได้
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี