หมายถึง การพยายามทำทุกวิธีทางที่ต้องเอาชนะให้ได้ ถ้าวิธีแรกไม่สำเร็จ ก็จะหาวิธีต่อไปโดยไม่คำนึงว่าจะป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดี
หมายเหตุ มักใช้เป็น ไม่ได้ด้วยเล่ห์เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์เอาด้วยคาถา
ประเภทสำนวน
"ไม่ได้ด้วยเล่ห์เอาด้วยกล" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนโดยตรง มีลักษณะเป็นข้อคิดที่ชัดเจน ให้เวลาทำสิ่งใดทำไม่สำเร็จด้วยวิธีปกติ ก็ต้องคิดหาวิธีการอื่นที่ฉลาดหรือแยบยลกว่า เป็นประโยคที่ให้คำสอนโดยตรงสมบูรณ์ในตัวเอง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้สอนเรื่องการแก้ปัญหา เมื่อเราไม่สามารถทำสิ่งใดให้สำเร็จด้วยวิธีการปกติ (เล่ห์) ก็ต้องหาวิธีการอื่นที่ชาญฉลาดมากขึ้น (กล) มาใช้ คำว่า 'เล่ห์' ในที่นี้หมายถึงวิธีการทั่วไป ส่วน 'กล' หมายถึงวิธีการพิเศษที่ใช้ความคิดและสติปัญญามากกว่า
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ไม่ได้ด้วยเล่ห์เอาด้วยกล" ในประโยค
- เรื่องการเจรจากับคู่ค้ารายนี้ ถ้าไม่ได้ด้วยเล่ห์เอาด้วยกล ลองเปลี่ยนวิธีการดูบ้าง
- ผู้จัดการบอกว่าการแก้ปัญหาเรื่องนี้ ถ้าไม่ได้ด้วยเล่ห์เอาด้วยกล ต้องหาวิธีการอื่นที่แยบยลกว่านี้
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี