การด่วนตัดสินหรือทำอะไรล่วงหน้าไปก่อน ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ข้างหน้าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่
ไม่เห็นน้ำตัดกระบอก ไม่เห็นกระรอกโก่งหน้าไม้
ประเภทสำนวน
"ไม่เห็นน้ำตัดกระบอก" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนโดยตรงที่มีความหมายชัดเจน เตือนสติให้คนไม่ประมาท ไม่ทำอะไรโดยไม่เตรียมพร้อม มีลักษณะเป็นคำสอนที่ให้ข้อคิดโดยตรง ไม่ต้องตีความซับซ้อน
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้มาจากการตัดไม้ไผ่หรือกระบอกไม้ไผ่เพื่อใส่น้ำ หากตัดกระบอกไม้ไผ่โดยที่ยังไม่แน่ใจว่าจะมีน้ำให้ใส่หรือไม่ ก็จะเป็นการเสียเวลาและเสียแรงโดยเปล่าประโยชน์ เป็นการสอนให้ไม่ทำอะไรโดยไม่วางแผนล่วงหน้า หรือไม่เตรียมพร้อมให้ดีก่อน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ไม่เห็นน้ำตัดกระบอก" ในประโยค
- หากคิดจะลงทุนทำธุรกิจ ต้องศึกษาตลาดให้ดีก่อน อย่าไม่เห็นน้ำตัดกระบอก เดี๋ยวจะเสียทั้งเงินทั้งเวลา
- คนที่ลาออกจากงานประจำมาทำอาชีพอิสระโดยยังไม่มีลูกค้าแน่นอน เป็นการไม่เห็นน้ำตัดกระบอก ซึ่งอาจเสี่ยงต่อความล้มเหลวได้
- การเตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนไปติดต่อราชการเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ควรไม่เห็นน้ำตัดกระบอก เพราะจะทำให้เสียเวลาเดินทางไปหลายรอบ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี