ไม่น่าไว้วางใจ, ไม่เข้าที
ประเภทสำนวน
"ไม่ชอบมาพากล" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นการเปรียบเปรยถึงสถานการณ์ที่น่าสงสัยหรือผิดปกติ มีความหมายแฝงที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่วลีเฉพาะที่แปลตรงตัวไม่ได้เหมือนสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้ใช้เมื่อพบเจอสถานการณ์ที่มีความผิดปกติ น่าสงสัย หรือดูมีพิรุธที่อาจมีเรื่องไม่ดีซ่อนอยู่เบื้องหลัง คำว่า 'มาพากล' หมายถึงอาการแปลกๆ ไม่น่าไว้วางใจ อันเป็นลางร้ายหรือเหตุการณ์ที่อาจนำมาซึ่งความเสียหาย ซึ่งคนที่ประสบพบเจอควรตั้งข้อสังเกตหรือระมัดระวัง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ไม่ชอบมาพากล" ในประโยค
- เขาเพิ่งเคยมาหาเรา แถมยังชวนไปเที่ยวต่างจังหวัด ไม่ชอบมาพากล ระวังตัวไว้ดีกว่า
- แต่ก่อนเงียบ ๆ แท้ ๆ จู่ ๆ ก็มียอดสั่งซื้อเข้ามาเป็นพันชิ้น ไม่ชอบมาพากล น่าตรวจสอบให้ดีก่อนส่งของ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี