บริวารหรือผู้ใต้บังคับบัญชาที่คอยเป็นมือไม้แทนคอยทำงานให้
ประเภทสำนวน
"แขนซ้ายแขนขวา" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีเฉพาะที่มีความหมายแฝงพิเศษ ไม่สามารถแปลความหมายตรงตัวได้ ต้องเข้าใจความหมายเฉพาะในภาษาไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเทียบแขนซ้ายและแขนขวาซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกายที่ต้องใช้ในการทำงานร่วมกัน เพื่อสื่อถึงบุคคลที่มีความสำคัญใกล้ชิด เป็นกำลังสำคัญ หรือเป็นที่ไว้วางใจเสมือนแขนซ้ายแขนขวาของร่างกายที่ขาดไม่ได้
ตัวอย่างการใช้สำนวน "แขนซ้ายแขนขวา" ในประโยค
- คุณสมหมายเป็นแขนซ้ายแขนขวาของผู้จัดการ ถ้าอยากให้เรื่องผ่านต้องคุยกับเขาก่อน
- เธอเป็นแขนซ้ายแขนขวาของฉันมานาน ช่วยกันทำงานมาตลอด จะให้ย้ายไปแผนกอื่นก็ลำบากใจ
- ผู้ช่วยคนนี้เป็นแขนซ้ายแขนขวาของประธานบริษัท เรื่องสำคัญๆ มักผ่านการพิจารณาจากเขาก่อนเสมอ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี