การเอาของที่ไม่ดีไม่มีค่ามาแทนของดีของมีค่าเช่นนำทองแดงหัวพลอยไปแทนแหวนทองคำฝังเพชรเป็นต้น
ประเภทสำนวน
"เอาเป็ดไปขันประชันไก่" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเทียบที่มีความหมายแฝง ต้องตีความเพิ่มเติม เปรียบเปรยพฤติกรรมของคนที่นำสิ่งที่ด้อยกว่าไปแข่งกับสิ่งที่เหนือกว่า
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้มาจากลักษณะธรรมชาติของเป็ดและไก่ โดยไก่ตัวผู้มีความสามารถในการขันได้ไพเราะ ดังกังวาน เป็นลักษณะประจำตัว ในขณะที่เป็ดมีเสียงร้องที่แหบแห้ง ไม่ไพเราะ ไม่สามารถขันได้เหมือนไก่ การนำเป็ดไปประชันหรือแข่งขันการขันกับไก่ จึงเป็นการกระทำที่ไม่สมเหตุสมผล เพราะเป็ดไม่มีความสามารถในเรื่องนั้น ไม่สามารถเทียบชั้นกับไก่ได้
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เอาเป็ดไปขันประชันไก่" ในประโยค
- การที่นักศึกษาปี 1 ท้าแข่งทฤษฎีฟิสิกส์กับศาสตราจารย์รางวัลโนเบล นั่นมันเป็นการเอาเป็ดไปขันประชันไก่ชัด ๆ
- การส่งทีมฟุตบอลเยาวชนที่เพิ่งตั้งไม่กี่เดือนไปแข่งกับทีมระดับประเทศ ก็เหมือนกับเอาเป็ดไปขันประชันไก่ ยังไม่พร้อมที่จะไปแข่งขันในระดับนั้น
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี