เสือที่ถูกทำร้ายบาดเจ็บ มีความดุร้ายมากกว่าปรกติ, โดยปริยายหมายถึงคนที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น.
ประเภทสำนวน
"เสือลำบาก" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยที่ต้องตีความเพิ่มเติม โดยเปรียบเทียบสภาพคนที่เคยมีอำนาจแล้วตกยาก กับเสือที่ลำบาก ไม่ใช่คำสอนโดยตรงแบบสุภาษิต และไม่ใช่คำที่มีความหมายเฉพาะที่แปลตรงๆ ไม่ได้แบบสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
มีที่มาจากพฤติกรรมของเสือซึ่งเป็นสัตว์ที่มีอำนาจ มีพละกำลัง ดุร้าย แต่เมื่อถึงยามลำบาก เช่น แก่ชรา ล้มป่วย หรือบาดเจ็บ ก็จะสูญเสียความน่าเกรงขาม กลายเป็นอันตราย เพราะจะดุร้ายมากขึ้น เพื่อปกป้องตัวเอง เปรียบเหมือนคนที่เคยมีฐานะดี มีอำนาจ แต่เมื่อตกอับหรือหมดอำนาจวาสนา มักจะแสดงพฤติกรรมที่เสียมารยาท หรือกลายเป็นคนที่ระแวงและน่ากลัว
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เสือลำบาก" ในประโยค
- อย่าไปยุ่งกับนายคนนั้นนะ ตอนนี้เขากำลังเสือลำบาก เพิ่งถูกปลดจากตำแหน่ง อารมณ์ร้ายมาก
- หลังจากถูกยึดทรัพย์จนหมดตัว คุณเสถียรก็กลายเป็นเสือลำบาก ใครเข้าไปพูดด้วยก็ถูกตวาดใส่
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี