เวลาจะต้องเสียเพียงเล็กน้อย ไม่อยากจะเสีย แต่พอถึงคราวต้องเสียมาก ๆ รับควักเงินให้ทันที
อย่างข้าวของที่ชำรุดไปเล็กน้อย แทนที่จะรีบซ่อมแซมเสีย กลับปล่อยให้เสียหายหรือพังมาก ๆ แล้วจึงซ่อมแซม ซึ่งต้องหมดเงินมากกว่าหลายเท่า
เสียประโยชน์เพียงเล็กน้อยแต่ไม่ยอมเสีย ทำให้ต้องมาเสียมากในที่สุด
ประเภทสำนวน
"เสียน้อย เสียยาก เสียมาก เสียง่าย" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนโดยตรงที่เข้าใจได้ทันที ให้ข้อคิดในการใช้ชีวิต มีความสมบูรณ์ในตัวเอง มีลักษณะเป็นคำสอนที่ให้แง่คิดในเรื่องการตัดสินใจและความเสียสละ
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้สอนว่า การยอมเสียสละสิ่งที่มีค่าหรือความสำคัญน้อยกว่า เป็นเรื่องที่ตัดสินใจได้ยาก เพราะคนมักลังเลที่จะสละแม้เพียงเล็กน้อย แต่หากปล่อยให้สถานการณ์ลุกลามจนต้องเสียในสิ่งที่มีค่ามากกว่า กลับกลายเป็นเรื่องที่ต้องยอมเสียง่ายๆ เพราะไม่มีทางเลือกอื่น เปรียบเหมือนการรู้จักเสียสละสิ่งเล็กน้อยเพื่อรักษาสิ่งที่สำคัญกว่าไว้
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เสียน้อย เสียยาก เสียมาก เสียง่าย" ในประโยค
- หมอแนะนำให้เขาเลิกสูบบุหรี่ตั้งแต่ตอนที่เริ่มมีอาการไอ แต่เขาไม่ยอมเลิก คิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย จนป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย นี่แหละ เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย
- รัฐบาลไม่ยอมทุ่มงบประมาณเพียงไม่กี่ร้อยล้านในการป้องกันน้ำท่วม สุดท้ายต้องเสียงบฟื้นฟูหลายหมื่นล้าน นี่คือ เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย ชัดๆ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"เสียน้อย เสียยาก เสียมาก เสียง่าย" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนโดยตรงที่ให้ข้อคิดเกี่ยวกับหลักการใช้จ่ายหรือการเสียสละ มีความหมายชัดเจนในตัวเอง เข้าใจได้ทันทีโดยไม่ต้องตีความซับซ้อน
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้สอนเรื่องการเสียสละหรือการจ่ายเงิน ว่าหากเป็นจำนวนน้อย มักจะตัดสินใจยาก ลังเลมาก แต่เมื่อต้องเสียในจำนวนมาก กลับตัดสินใจได้ง่าย ซึ่งเป็นความขัดแย้งในตัวเองของพฤติกรรมมนุษย์ แท้จริงควรพิจารณาให้รอบคอบเมื่อต้องเสียทรัพย์จำนวนมาก และไม่ควรลังเลมากเกินไปในสิ่งเล็กน้อย
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เสียน้อย เสียยาก เสียมาก เสียง่าย" ในประโยค
- เขาติดอยู่กับการต่อรองราคาผ้าผืนละ 20 บาท แต่กลับซื้อรถหรูทั้งที่ไม่จำเป็น นี่แหละที่เรียกว่า เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย
- คนเรามักเป็นแบบเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย บริจาคเงินแค่ร้อยบาทยังคิดหนัก แต่ซื้อของฟุ่มเฟือยหลายหมื่นกลับตัดสินใจได้เร็ว
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี