เมื่อจะต้องสูญเสียอะไรไปอย่างไม่มีทางที่จะสูญเปล่า ก็ไม่ต้องวิตกทุกข์ร้อนอะไร
คนในเครือญาติแต่งงานกัน จะทำให้ทรัพย์มรดกไม่ตกไปเป็นของผู้อื่น
ประเภทสำนวน
"เรือล่มในหนองทองจะไปไหน" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีที่มีความหมายเฉพาะ ไม่สามารถแปลความหมายตรงตัวได้ ต้องตีความเป็นความหมายเฉพาะเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ทรัพย์สินไม่สูญหายไปไหน
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้ใช้เปรียบเปรยถึงสถานการณ์ที่ทรัพย์สินหรือสิ่งของสูญหายหรือเสียหายภายในบ้านหรือในหมู่เครือญาติ ซึ่งก็ยังคงอยู่ในวงศ์ตระกูลเดียวกัน ไม่ได้สูญเสียไปจริงๆ เหมือนเรือที่ล่มในหนองน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำขนาดเล็ก ก็ยังพอมองเห็นและกู้ขึ้นมาได้ ไม่ได้หายไปไหน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เรือล่มในหนองทองจะไปไหน" ในประโยค
- พ่อไม่ต้องกังวลหรอกที่หยิบเงินให้พี่สาวยืมไป เรือล่มในหนองทองจะไปไหน ยังไงสุดท้ายก็เป็นของครอบครัวเรา
- แม่บอกว่าไม่เป็นไรที่ลูกชายนำเงินไปลงทุน เรือล่มในหนองทองจะไปไหน สุดท้ายก็เป็นมรดกตกทอดให้ลูกหลานอยู่ดี
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"เรือล่มในหนองทองจะไปไหน" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเทียบที่แฝงความหมายเชิงสอน ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนตรงๆ และไม่ใช่วลีที่มีความหมายเฉพาะแบบสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากสถานการณ์เปรียบเทียบ หากเรือล่มในหนองน้ำซึ่งเป็นแหล่งน้ำปิด มีขอบเขตจำกัด ทองหรือทรัพย์สินที่จมลงไปก็ย่อมไม่สูญหาย สามารถงมหรือค้นหาได้ไม่ยาก เพราะบริเวณจำกัด ไม่เหมือนล่มในแม่น้ำหรือทะเลที่กว้างใหญ่
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เรือล่มในหนองทองจะไปไหน" ในประโยค
- แม้ธุรกิจร้านอาหารในครอบครัวเราจะขาดทุน แต่เรือล่มในหนองทองจะไปไหน เรายังมีญาติพี่น้องที่คอยช่วยเหลือกัน
- เขาหย่ากับสามี แต่ยังอยู่ร่วมละแวกเดียวกับครอบครัวฝ่ายสามี ก็เหมือนเรือล่มในหนองทองจะไปไหน เพราะต้องเจอหน้ากันอยู่ดี
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี