ประเภทสำนวน
"เป็นหน้าดั้ง" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นถ้อยคำที่มีความหมายเฉพาะไม่สามารถแปลความหมายได้ตรงตามตัวอักษร ต้องตีความเป็นนัยพิเศษ ไม่ได้เป็นคำสอนโดยตรง (สุภาษิต) หรือเป็นการเปรียบเทียบที่ให้แง่คิด (คำพังเพย)
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวน 'เป็นหน้าดั้ง' มีที่มาจากการเปรียบเทียบลักษณะของคนที่เป็นผู้นำหรือหน้าตา (ภาพลักษณ์) ของหน่วยงานหรือกลุ่มคน โดยดั้งคือส่วนที่อยู่หน้าสุดของเรือ ซึ่งเด่นชัดและเป็นจุดที่คนมองเห็นก่อน เปรียบเสมือนผู้ที่เป็นตัวแทนหรือบุคคลที่มีบทบาทสำคัญที่แสดงออกต่อสาธารณะ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เป็นหน้าดั้ง" ในประโยค
- บริษัทส่งเขาเป็นหน้าดั้งไปเจรจากับลูกค้ารายใหญ่ เพราะเขาเป็นคนพูดเก่งและดูน่าเชื่อถือ
- ท่านผู้ว่าฯ ได้มอบหมายให้รองผู้ว่าฯ เป็นหน้าดั้งในการแถลงข่าวเกี่ยวกับโครงการพัฒนาเมืองครั้งนี้
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี