คนที่ไม่รู้ประสีประสา ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ไม่มีประสบการณ์
ประเภทสำนวน
"เด็กอมมือ" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นการเปรียบเปรยพฤติกรรมหรือลักษณะของบุคคล ใช้เพื่อเปรียบเทียบผู้ที่ยังไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้เรื่องราวต่างๆ คล้ายกับเด็กเล็กที่ยังอมมืออยู่ ไม่ใช่คำสอนโดยตรงแบบสุภาษิต และไม่ใช่คำที่มีความหมายเฉพาะที่ไม่สามารถแปลตรงตัวได้แบบสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเทียบกับพฤติกรรมของเด็กอ่อนหรือเด็กเล็กที่มักอมนิ้วมือตัวเอง ซึ่งเป็นธรรมชาติของเด็กช่วงวัยหนึ่งในการสำรวจตัวเองและหาความสบายใจ คำพังเพยนี้นำลักษณะดังกล่าวมาเปรียบเทียบกับผู้ใหญ่ที่ยังขาดประสบการณ์ ไร้เดียงสา ไม่รู้เท่าทันเรื่องราวต่างๆ หรือยังไม่มีความชำนาญในสิ่งที่ทำ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เด็กอมมือ" ในประโยค
- หัวหน้าไม่ควรมอบหมายงานสำคัญให้เขารับผิดชอบคนเดียว เพราะเขายังเด็กอมมืออยู่ ทำงานแบบนี้ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน
- จะให้น้องใหม่ไปเจรจากับลูกค้ารายใหญ่เลยหรือ เขายังเด็กอมมือในวงการนี้ อาจจะทำให้บริษัทเสียโอกาสได้
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"เด็กอมมือ" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นคำหรือวลีเฉพาะที่มีความหมายพิเศษ ไม่สามารถเข้าใจความหมายได้จากการแปลตรงตัว ต้องรู้ความหมายเฉพาะทางภาษาไทย สำนวนนี้ใช้เรียกลักษณะของคนที่ไร้ประสบการณ์ ไม่รู้โลก
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากลักษณะธรรมชาติของทารกและเด็กเล็กที่มักอมนิ้วหรือมือตัวเอง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่แสดงถึงความไร้เดียงสา การไม่รู้อะไร จึงนำมาเปรียบเทียบกับคนที่ขาดประสบการณ์ ไม่เคยผ่านโลกมามาก ยังไม่เติบโตพอที่จะเผชิญกับเรื่องราวที่ซับซ้อน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เด็กอมมือ" ในประโยค
- เราจะปล่อยให้เขาไปเจรจาธุรกิจคนเดียวไม่ได้หรอก เขายังเป็นเด็กอมมืออยู่เลย เพิ่งจบมาทำงานได้แค่เดือนเดียว
- คุณอย่าเพิ่งให้น้องคนนี้รับผิดชอบงานใหญ่ เขายังเด็กอมมือ ต้องสอนงานไปอีกสักพัก
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี