เกลียดตัวเขา แต่อยากได้ผลประโยชน์จากเขา มักใช้เข้าคู่กับ เกลียดตัวกินไข่ ว่า เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินนํ้าแกง
ประเภทสำนวน
"เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นการเปรียบเปรยถึงพฤติกรรมที่ขัดแย้ง มีความหมายแฝงที่ต้องตีความ ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่วลีเฉพาะที่ไม่สามารถแปลตรงตัวได้เหมือนสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้สะท้อนถึงลักษณะของคนที่พูดว่าเกลียดหรือรังเกียจสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่กลับยอมรับหรือใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสิ่งนั้น เปรียบเหมือนคนที่บอกว่าเกลียดปลาไหล แต่กลับชอบกินน้ำแกงที่ทำจากปลาไหล แสดงถึงความไม่สอดคล้องระหว่างคำพูดและการกระทำ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง" ในประโยค
- เธอบอกว่าเกลียดผู้ชายคนนั้นนักหนา แต่พอเขาชวนไปเที่ยวก็ไปด้วยทุกที นี่มันเกลียดปลาไหลกินน้ำแกงชัดๆ
- รัฐบาลประกาศต่อต้านการคอร์รัปชัน แต่กลับมีข่าวว่าผู้บริหารระดับสูงรับสินบน นี่ก็เหมือนเกลียดปลาไหลกินน้ำแกงนั่นแหละ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี