การที่มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น หากคิดที่จะทำอะไรสักอย่างกับผู้อื่น ให้นึกถึงความรู้สึกของเขา ถ้าเราเป็นเขาจะรู้สึกอย่างไร
ประเภทสำนวน
"อกเขาอกเรา" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นการเปรียบเทียบอารมณ์ความรู้สึกของคนหนึ่งกับอีกคนหนึ่ง ต้องตีความต่อว่าควรมีความเห็นอกเห็นใจกัน จัดเป็นคำพังเพยเพราะมีลักษณะเป็นการเปรียบเปรยที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงแบบสุภาษิต และไม่ใช่สำนวนเพราะเข้าใจความหมายได้จากคำที่ประกอบเป็นวลี
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้มีความหมายว่าให้รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา คิดถึงความรู้สึกของผู้อื่นเหมือนเป็นความรู้สึกของตนเอง มีพื้นฐานมาจากการเปรียบเทียบระหว่าง 'อก' ซึ่งในภาษาไทยใช้เป็นสัญลักษณ์แทนหัวใจหรือความรู้สึกของคน การเทียบ 'อกเขา' กับ 'อกเรา' จึงหมายถึงการให้คิดถึงความรู้สึกของผู้อื่นเสมือนเป็นความรู้สึกของตนเอง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "อกเขาอกเรา" ในประโยค
- เรื่องนี้ก็ต้องคิดแบบอกเขาอกเรานะ ถ้าเราเป็นเขา เราจะรู้สึกอย่างไร
- เมื่อเห็นเพื่อนร้องไห้เพราะสอบตก แม่จึงสอนลูกให้รู้จักอกเขาอกเรา ไม่ควรไปล้อเลียนความผิดหวังของผู้อื่น
- ผู้บริหารที่ดีต้องรู้จักอกเขาอกเรา เข้าใจปัญหาและความเหนื่อยล้าของพนักงาน
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี