ลักษณะของการถ้อยทีถ้อยอาศัยกันด้วยการให้สิ่งของแลกเปลี่ยนหรือตอบแทนซึ่งกันและกันเป็นต้น
แลกเปลี่ยนสิ่งของซึ่งกันและกัน, แสดงน้ำใจไมตรีตอบแทนกันและกัน
ประเภทสำนวน
"หมูไปไก่มา" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นถ้อยคำเปรียบเทียบที่ต้องตีความเพิ่มเติม และมีความหมายแฝงเกี่ยวกับพฤติกรรมของคน ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่คำที่มีความหมายเฉพาะแบบสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
เปรียบเปรยถึงการพูดเปลี่ยนเรื่องไปเรื่อยๆ ไม่จบสิ้น หรือพูดวกวนไปมา ไม่ตรงประเด็น ไม่มีจุดจบ โดยเปรียบการพูดวกวนเหมือนพูดเรื่องหมูแล้วเปลี่ยนไปพูดเรื่องไก่ แล้วกลับมาพูดเรื่องหมูอีก วนไปเวียนมาไม่รู้จบ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "หมูไปไก่มา" ในประโยค
- การประชุมวันนี้แย่มาก ประธานพูดหมูไปไก่มา จนไม่รู้ว่าสรุปเราต้องทำอะไร
- เธออย่าพูดหมูไปไก่มาแบบนี้ได้ไหม พูดตรงๆ เข้าประเด็นจะได้จบไวๆ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"หมูไปไก่มา" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเทียบที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่คำที่แปลตรงตัวไม่ได้แบบสำนวนไทย แต่เป็นการเปรียบเปรยถึงพฤติกรรมที่ไม่ตรงประเด็น วกวน
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้ใช้การเปรียบเทียบกับสัตว์สองชนิดที่แตกต่างกัน คือหมูและไก่ สื่อถึงการพูดหรือทำอะไรไม่เป็นเรื่องเป็นราว ไม่ตรงประเด็น วกไปวนมา พูดไม่เป็นลำดับขั้นตอน เริ่มพูดเรื่องหนึ่งแล้วกลับไปพูดอีกเรื่องหนึ่ง ทำให้ผู้ฟังสับสน ไม่เข้าใจ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "หมูไปไก่มา" ในประโยค
- เขาเล่าเรื่องอุบัติเหตุให้ฟังแบบหมูไปไก่มา จับต้นชนปลายไม่ถูก ต้องถามซ้ำหลายรอบกว่าจะเข้าใจ
- การประชุมวันนี้ประธานพูดหมูไปไก่มา ทำให้พวกเราไม่เข้าใจว่าสรุปแล้วจะให้ทำอย่างไรกันแน่
- รายงานที่คุณเขียนนี่หมูไปไก่มาจริงๆ ข้อมูลกระจัดกระจาย ไม่เป็นระบบเลย
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี