คนที่ทําอะไรผิดพลาดจนได้รับความอับอายแล้วชวนให้ผู้อื่นทําตามโดยยกย่องการกระทํานั้นว่าดี ควรเอาอย่าง
ประเภทสำนวน
"หมาหางด้วน" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นถ้อยคำเปรียบเทียบพฤติกรรมมนุษย์กับสัตว์ (หมา) ต้องตีความมากกว่าคำสอนโดยตรง และไม่มีความหมายที่ชัดเจนในตัวเอง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้ใช้เปรียบเปรยถึงคนที่เที่ยวพูดจาส่อเสียดหรือว่าร้ายผู้อื่นไปทั่ว โดยไม่ยอมหยุด คล้ายกับหมาที่ถูกตัดหาง แล้ววิ่งไปทั่วด้วยความตื่นกลัวและเจ็บปวด คำว่า 'หางด้วน' นั้นมีนัยถึงคนที่มีปมด้อยหรือมีเรื่องไม่ดีติดตัวมา จึงชอบพูดจาใส่ร้ายผู้อื่นเพื่อกลบเกลื่อนข้อบกพร่องของตน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "หมาหางด้วน" ในประโยค
- เขาชอบนินทาชาวบ้านไปทั่ว เป็นหมาหางด้วนจริงๆ
- อย่าไปฟังนายสมชายพูดเลย เขาเป็นหมาหางด้วน ชอบเที่ยวนินทาใครต่อใครไปทั่ว
- คนที่ชอบพูดจาส่อเสียดคนอื่นไปทั่วเหมือนหมาหางด้วนนั้น ไม่มีใครอยากคบหาด้วยหรอก
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี