มีใจกว้างใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินตัวเพื่ออวดมั่งมี เช่น เขาชอบทำหน้าใหญ่ใจโตทั้ง ๆ ที่มีเงินน้อย
ประเภทสำนวน
"หน้าใหญ่ใจโต" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเทียบลักษณะของคน โดยมีความหมายแฝงที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงอย่างสุภาษิต และไม่ใช่วลีที่มีความหมายเฉพาะที่ไม่สามารถแปลตรงตัวได้อย่างสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้กล่าวถึงลักษณะนิสัยของคนที่ใจกว้าง โอบอ้อมอารี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่คับแคบหรือตระหนี่ถี่เหนียว โดยใช้คำว่า 'หน้าใหญ่' เปรียบเทียบกับนิสัย 'ใจโต' ที่แสดงถึงความมีน้ำใจ ใจกว้าง ไม่เล็กไม่แคบ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น
ตัวอย่างการใช้สำนวน "หน้าใหญ่ใจโต" ในประโยค
- คุณลุงคนนี้หน้าใหญ่ใจโตจริงๆ ทุกครั้งที่มีงานบุญในหมู่บ้าน ท่านก็บริจาคเงินช่วยเหลือโดยไม่เคยปฏิเสธ
- ถึงแม้จะเพิ่งรู้จักกัน แต่เขาก็เป็นคนหน้าใหญ่ใจโต เลี้ยงอาหารแพงๆ และยังช่วยออกค่าที่พักให้อีกด้วย
- คนที่หน้าใหญ่ใจโตมักเป็นที่รักของคนรอบข้าง เพราะพร้อมจะแบ่งปันและช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี