สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น

คำพังเพย

หมายถึง การบอกเล่าบอกต่อผ่านคนมามากๆ ก็ไม่เท่ากับเราได้เห็นด้วยตาตนเอง อย่าเพิ่งไปเชื่อสิ่งที่คนบอกต่อ ๆ กันมา จะจริงหรือไม่ต้องไปสัมผัสไปเห็นด้วยตัวเอง

หมายถึง การได้ยินได้ฟังจากผู้อื่นหลาย ๆ คน ก็ไม่เท่ากับพบเห็นด้วยตนเอง

ประเภทสำนวน

"สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า มีลักษณะเป็นคำสอนโดยตรง ให้ข้อคิดที่ชัดเจนว่าการเห็นด้วยตาตนเองเชื่อถือได้มากกว่าคำบอกเล่า ไม่ต้องตีความซับซ้อน และเป็นคำสอนเกี่ยวกับหลักการพิจารณาความจริง

ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง

สุภาษิตนี้สอนให้รู้จักพิจารณาข้อมูลอย่างมีวิจารณญาณ โดยเน้นย้ำว่าประสบการณ์ตรงที่ได้เห็นด้วยตาตนเองนั้นมีความน่าเชื่อถือมากกว่าคำบอกเล่าจากผู้อื่น แม้จะมีคนบอกจำนวนมาก (สิบปาก) ก็ยังไม่น่าเชื่อถือเท่ากับการได้เห็นด้วยตาของตนเอง

ตัวอย่างการใช้สำนวน "สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น" ในประโยค

  • แม่ค้าขายผลไม้ออนไลน์คนนี้มีคนชมว่าส้มหวานมาก แต่สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ฉันเลยไปซื้อมาชิมดูเองจะได้รู้ความจริง
  • ถึงเพื่อนๆ จะบอกว่าหนังเรื่องนี้สนุกมาก แต่สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ผมขอดูเองแล้วค่อยตัดสินใจว่าชอบหรือไม่

สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย

สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน

สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา

คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี

ประเภทสำนวน

"สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนที่ให้ข้อคิดโดยตรง มีความหมายชัดเจนในตัวเอง โดยสอนว่าการได้เห็นด้วยตาตนเองนั้นมีความน่าเชื่อถือมากกว่าการฟังคำบอกเล่าจากผู้อื่น ไม่มีการเปรียบเปรยที่ต้องตีความเพิ่มเติม

ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง

สุภาษิตนี้สอนให้คนเราพิจารณาสิ่งต่างๆ ด้วยการสังเกตและประสบการณ์ตรงมากกว่าเชื่อคำบอกเล่า แม้จะมีคนบอกเล่าเรื่องราวมากมายเพียงใด ก็ไม่มีความน่าเชื่อถือเท่ากับการที่เราได้เห็นหรือพบเห็นด้วยตาตนเอง เน้นความสำคัญของประสบการณ์ตรงและการพิสูจน์ด้วยตนเอง

ตัวอย่างการใช้สำนวน "สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น" ในประโยค

  • ถึงเขาจะเล่าว่าที่นั่นสวยงามแค่ไหน แต่สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น คุณต้องไปดูด้วยตัวเองถึงจะเข้าใจ
  • ครูสอนให้นักเรียนทดลองทำด้วยตัวเอง เพราะสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น การลงมือปฏิบัติจะช่วยให้เข้าใจได้ดีกว่า

สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย

สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน

สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา

คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี

สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น หมายถึง?

พจนานุกรมไทย สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น หมายถึง:

  1. (สำ) น. การได้ยินได้ฟังจากผู้อื่นหลาย ๆ คน ก็ไม่เท่ากับพบเห็นด้วยตนเอง.

 หมายเหตุ

คำพังเพย หมายถึง ถ้อยคำหรือข้อความที่กล่าวเป็นกลาง ๆ เพื่อให้ตีความเข้ากับเรื่อง มีความหมายแฝงอยู่ อาจเป็นคำที่ใช้สื่อในทางเปรียบเปรย หรือในทำนองเสียดสี เช่น กระต่ายตื่นตูม เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย

สำนวนไทย หมายถึง ถ้อยคำ กลุ่มคำ หรือประโยคที่ไม่ได้แปลความหมายตรง ๆ แต่มีความหมายเชิงเปรียบเทียบแฝงอยู่ เช่น สอนจระเข้ให้ว่ายนํ้า รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง

คำสุภาษิต หรือ สำนวนสุภาษิต คือ คำในภาษาไทยที่ใช้ในการสื่อสารเชิงเปรียบเทียบอุปมาอุปมัย มักมีความหมายในการตักเตือนสั่งสอนในทางบวก มีความหมายที่ดี เช่น รักยาวให้บั่นรักสั้นให้ต่อ น้ำเชี่ยวอย่าขวางเรือ

 ภาพประกอบสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น

  • คำพังเพย: สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น หมายถึงอะไร?, หมายถึง การบอกเล่าบอกต่อผ่านคนมามากๆ ก็ไม่เท่ากับเราได้เห็นด้วยตาตนเอง อย่าเพิ่งไปเชื่อสิ่งที่คนบอกต่อ ๆ กันมา จะจริงหรือไม่ต้องไปสัมผัสไปเห็นด้วยตัวเอง อวัยวะ ปาก, ตา คำกริยา เห็น, ว่า(พูด) หมวด สุภาษิต
  • คำพังเพย: สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น หมายถึงอะไร?, หมายถึง การได้ยินได้ฟังจากผู้อื่นหลาย ๆ คน ก็ไม่เท่ากับพบเห็นด้วยตนเอง ตัวเลข สิบ อวัยวะ ปาก, ตา คำกริยา เห็น, ว่า หมวด สุภาษิต

 คำพังเพยที่คล้ายกัน