การนำความลับหรือเรื่องเลวร้ายไปบอกให้คนอื่นรู้ ซึ่งไม่ก่อประโยชน์ให้กับใคร แต่ผู้ที่ได้รับฟังกลับได้ล่วงรู้ความลับต่าง ๆ
สำนวนนี้มักจะใช้สื่อถึงการบอกเล่าเรื่องราวที่ไม่ดี และมักจะมีคู่กรณีที่ต่างคนต่างแฉกันและกัน
เอาความลับของตน หรือพวกตนไปเผยให้คนอื่นรู้เป็นการประจานตน
นำความลับของฝ่ายตนไปเปิดเผยให้คนอื่นรู้เป็นการประจานตนหรือพรรคพวกของตน
ประเภทสำนวน
"สาวไส้ให้กากิน" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีเฉพาะที่มีความหมายพิเศษ ไม่สามารถแปลความหมายตรงตัวได้ และต้องตีความเป็นความหมายเฉพาะที่รู้กันในภาษาไทย ไม่ได้เป็นคำสอนโดยตรงหรือการเปรียบเทียบที่ต้องตีความเพิ่มเติม
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้หมายถึง การนำเรื่องราวหรือความลับภายในครอบครัว วงศ์ตระกูล หรือกลุ่มของตน ไปเปิดเผยให้บุคคลภายนอกรู้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อคนในครอบครัวหรือพวกพ้องของตนเอง คำว่า 'สาวไส้' หมายถึงการเปิดเผยความลับภายใน ส่วน 'กา' หมายถึงคนภายนอกหรือคนแปลกหน้า
ตัวอย่างการใช้สำนวน "สาวไส้ให้กากิน" ในประโยค
- การที่เขานำเรื่องทะเลาะกันในบ้านไปบอกเพื่อนบ้านทุกคน นั่นเท่ากับสาวไส้ให้กากิน
- พี่จ๋า อย่าเอาเรื่องที่พ่อแม่มีปัญหากันไปเล่าให้เพื่อนฟังนะ มันเป็นการสาวไส้ให้กากิน
- เธอรู้ไหมว่าการนำความลับบริษัทไปเล่าให้คู่แข่งฟังนั้นเท่ากับสาวไส้ให้กากิน อาจทำให้บริษัทเราเสียหายได้
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"สาวไส้ให้กากิน" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีที่มีความหมายเฉพาะ ไม่สามารถแปลตรงตัวได้ ต้องตีความเป็นพิเศษ และไม่ได้มีลักษณะเป็นคำสอนโดยตรงหรือการเปรียบเทียบแบบคำพังเพย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้หมายถึงการนำความลับหรือเรื่องภายในออกมาเปิดเผยให้ผู้อื่นรู้ โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่ควรเปิดเผย เหมือนการสาวเอาไส้ในร่างกายออกมาให้อีกาได้กิน ซึ่งเป็นการทำลายตัวเองและนำความเสียหายมาสู่ตนเองหรือพวกพ้อง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "สาวไส้ให้กากิน" ในประโยค
- เขาไม่รู้จักรักษาความลับเลย พอถูกคนอื่นซักไซ้นิดหน่อยก็สาวไส้ให้กากินหมดแล้ว
- อย่าสาวไส้ให้กากินนะ เรื่องภายในบริษัทไม่ควรนำไปพูดกับคู่แข่ง
- พอถูกตำรวจสอบสวน เขาก็สาวไส้ให้กากิน บอกชื่อเพื่อนร่วมแก๊งทั้งหมด
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"สาวไส้ให้กากิน" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีที่มีความหมายเฉพาะ ไม่สามารถแปลความตรงตัวได้ ต้องตีความเป็นพิเศษ สาวไส้ให้กากินไม่ได้หมายถึงการเอาลำไส้ออกมาให้นกกากิน แต่หมายถึงการนำความลับภายในมาเปิดเผย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากการเปรียบเทียบการนำเรื่องลับหรือเรื่องภายในที่ไม่ควรเปิดเผยมาพูด เหมือนการเอาไส้ในร่างกายที่อยู่ลึกๆ ออกมาภายนอกให้นกกาได้กิน ทำให้เกิดความเสียหายแก่ตนเองหรือพวกพ้อง คำว่า 'ไส้' เปรียบเหมือนความลับหรือเรื่องภายใน ส่วน 'กา' เปรียบเหมือนคนภายนอกหรือศัตรูที่จะได้ประโยชน์จากข้อมูลนั้น
ตัวอย่างการใช้สำนวน "สาวไส้ให้กากิน" ในประโยค
- ฉันเตือนแล้วว่าอย่าไปพูดเรื่องปัญหาในบริษัทให้คู่แข่งฟัง แต่เขาไม่ฟัง ยังไปสาวไส้ให้กากินจนตอนนี้ความลับรั่วไหลไปหมดแล้ว
- พวกเรากำลังวางแผนสำคัญอยู่ อย่าเพิ่งสาวไส้ให้กากินนะ รอให้ทุกอย่างลงตัวก่อน ค่อยประกาศให้คนอื่นรู้
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี