พูดว่าคนอื่นอย่างไร ตนเองก็กลับเป็นอย่างนั้นเสียเอง
เหมือนอิเหนาที่ปรารภว่าไม่รักไม่ต้องการบุษบา แต่ตัวเองกลับลักพาบุษบาไป
การต่อว่าผู้อื่นว่าทำในสิ่งผิด แต่ตนเองกับประพฤติผิดแบบนั้นซะเอง
ประเภทสำนวน
"ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นถ้อยคำเปรียบเปรยพฤติกรรมของคนที่ชอบนินทาหรือวิจารณ์ความผิดของผู้อื่น แต่ตนเองก็มีพฤติกรรมในลักษณะเดียวกัน มีความหมายแฝงที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่เพียงวลีเฉพาะแบบสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากบทละครเรื่องอิเหนา ซึ่งตัวเอกคืออิเหนามักจะกล่าวโทษผู้อื่นที่มีความรักไม่มั่นคง แต่ตัวเขาเองก็มีนิสัยเจ้าชู้ รักคนโน้นทีคนนี้ที เปลี่ยนความรักไปเรื่อยๆ สำนวนนี้จึงใช้เปรียบเปรยถึงคนที่ชอบตำหนิหรือวิจารณ์ความผิดของผู้อื่น ทั้งที่ตนเองก็มีความผิดในลักษณะเดียวกัน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง" ในประโยค
- เธอชอบบ่นว่าเพื่อนๆ ชอบมางานสาย แต่ตัวเองก็มาสายทุกครั้ง นี่มันว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเองชัดๆ
- ผู้จัดการคนนี้ชอบตำหนิพนักงานเรื่องการใช้โทรศัพท์ในเวลางาน แต่ตัวเองกลับเล่นโซเชียลตลอดเวลา เรียกได้ว่าว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยพฤติกรรมคนที่ชอบตำหนิหรือวิจารณ์ผู้อื่น แต่กลับทำผิดเสียเอง ต้องตีความความหมายแฝงที่เปรียบเทียบ ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่เพียงวลีสั้นๆ ที่แปลตรงตัวไม่ได้เหมือนสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากเรื่องอิเหนา ซึ่งเป็นวรรณคดีไทยที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักและการผจญภัยของเจ้าชายอิเหนา เมื่อตัวละครอิเหนาไปตำหนิหรือวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น แต่ตัวเองกลับทำผิดในลักษณะเดียวกันหรือร้ายแรงกว่า คำพังเพยนี้จึงใช้เปรียบเปรยถึงคนที่ชอบตำหนิผู้อื่น แต่ตนเองกลับทำผิดในเรื่องเดียวกัน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง" ในประโยค
- พี่มัวแต่ดุน้องว่าเล่นโทรศัพท์ทั้งวัน แต่พอดูเวลาหน้าจอของพี่เอง กลับใช้มากกว่าน้องอีก นี่มันว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเองชัดๆ
- คุณสมศักดิ์ชอบพูดถึงคนอื่นว่าทุจริต แต่พอถูกตรวจสอบ กลับพบว่าตัวเองโกงมากกว่าใคร ทำตัวว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี