อาการที่วกหรือย้อนกลับไปหาจุดเริ่มต้น เช่น ให้การเป็นวัวพันหลัก, ลักษณะที่วกหรือย้อนกลับไปหาบุคคลที่เป็นต้นตอผู้รับผิดชอบ (มักใช้ในทางชู้สาว) มาจากสำนวนเต็มว่า แม่สื่อแม่ชัก ไม่ได้เจ้าตัว เอาวัวพันหลัก หมายความว่า ชายที่ใช้แม่สื่อไปติดต่อหญิงที่ตนชอบ แล้วไม่ได้ตัวหญิงคนนั้น เลยเอาแม่สื่อนั้นเองเป็นภรรยา หรือผู้หญิงทำทีรับอาสาไปติดต่อหญิงคนใดคนหนึ่งให้แก่ชาย แต่ในที่สุดก็เอาตัวเองเข้าพัวพันจนได้ชายคนนั้นเป็นสามี.
ประเภทสำนวน
"วัวพันหลัก" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยถึงพฤติกรรมของคนที่วุ่นวาย สับสน ไม่มีระเบียบ ทำให้เกิดความยุ่งเหยิง จัดเป็นคำพังเพย เพราะมีลักษณะเป็นการเปรียบเทียบพฤติกรรมของคนกับวัวที่พันหลัก ซึ่งต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
มาจากลักษณะของวัวที่ถูกล่ามไว้กับหลัก เมื่อวัวเดินวนไปรอบๆ จะทำให้เชือกพันรอบหลักจนยุ่งเหยิง เปรียบกับคนที่ทำอะไรวุ่นวาย สับสน ไม่เป็นระเบียบ ไม่มีจุดหมายที่ชัดเจน จนเกิดความยุ่งเหยิงหรือความวุ่นวายขึ้น
ตัวอย่างการใช้สำนวน "วัวพันหลัก" ในประโยค
- การทำงานของทีมนี้เหมือนวัวพันหลัก ไม่มีใครรู้ว่าใครรับผิดชอบส่วนไหน แผนงานก็สับสนไปหมด
- ถ้าไม่จัดระบบเอกสารให้ดี งานจะกลายเป็นวัวพันหลัก แล้วจะหาอะไรก็ไม่เจอ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี