ทำอะไรเด็ดขาดจริงจังลงไปไม่ได้ เพราะเกรงจะไปกระทบกระเทือนพวกพ้อง เป็นต้น
จะทำอะไรเด็ดขาดจริงจังลงไปไม่ได้ เพราะเกรงจะไปกระทบพวกพ้องตัวเอง
ประเภทสำนวน
"ลูบหน้าปะจมูก" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเปรยพฤติกรรมของคนที่ไม่จริงจังทำอะไรแบบขอไปที เพียงเพื่อเอาตัวรอด ไม่ใช่คำสอนโดยตรง และไม่สามารถตีความได้จากความหมายตรงตัว จึงเป็นคำพังเพย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
มาจากอาการลูบหน้าและปาดจมูกแบบลวก ๆ ไม่สะอาดจริงจัง ซึ่งเปรียบเทียบกับการทำอะไรไม่เต็มที่ ทำแค่พอให้เห็นว่าได้ทำแล้ว แต่ไม่ได้ทำอย่างจริงจังหรือสุดความสามารถ เป็นเพียงการทำแบบผิวเผินหรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ลูบหน้าปะจมูก" ในประโยค
- รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือน้ำท่วมแบบลูบหน้าปะจมูก แจกของนิดหน่อย แล้วก็หายหน้าไป ไม่มีการแก้ปัญหาระยะยาว
- เขางานเยอะแต่ไม่มีเวลาทำ เลยทำงานชิ้นนี้แบบลูบหน้าปะจมูก ส่งแบบขอไปที พอให้ผ่านเกณฑ์เท่านั้น
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"ลูบหน้าปะจมูก" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยถึงการกระทำหรือการแสดงอาการเพื่อกลบเกลื่อนหรือแก้หน้าในสถานการณ์ที่ลำบากใจ ไม่ใช่คำสอนโดยตรง (จึงไม่ใช่สุภาษิต) และมีความหมายเชิงเปรียบเทียบที่ต้องตีความเพิ่มเติม
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
มาจากกิริยาที่คนเรามักลูบหน้าหรือแตะจมูกเมื่อรู้สึกเขินอาย กระอักกระอ่วน หรือเมื่อต้องการกลบเกลื่อนความรู้สึก เปรียบถึงการทำอะไรเพียงเพื่อให้ผ่านไปหรือแก้หน้าเฉพาะหน้า แก้ความเก้อเขิน โดยไม่ได้แก้ปัญหาที่แท้จริง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ลูบหน้าปะจมูก" ในประโยค
- เขาพยายามหาคำแก้ตัวเมื่อถูกจับได้ว่าโกหก แต่ก็ได้แค่ลูบหน้าปะจมูกไปอย่างนั้นเอง
- รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนแบบลูบหน้าปะจมูก แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปที แต่ไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุของปัญหา
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี