ถึงแม้ยุงจะเป็นเพียงแมลงตัวจิ๋ว แต่ก็สามารถเป็นพาหะนำโรคร้ายหลายชนิดมาสู่คนได้
ประเภทสำนวน
"ยุงร้ายกว่าเสือ" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นการเปรียบเปรยพฤติกรรมโดยนำสัตว์สองชนิดมาเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นภาพและต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่การใช้คำที่มีความหมายพิเศษที่แปลตรงตัวไม่ได้เหมือนสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้มีความหมายเปรียบเทียบว่า คนหรือสิ่งที่ดูเล็กน้อยหรือไม่น่ากลัว (เหมือนยุง) แต่กลับสร้างความเดือดร้อนหรืออันตรายมากกว่าสิ่งที่ดูน่ากลัว (เหมือนเสือ) โดยเปรียบเทียบระหว่างยุงซึ่งเป็นสัตว์ตัวเล็กกับเสือซึ่งเป็นสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ สื่อถึงว่าบางครั้งสิ่งที่ดูไม่น่ากลัวอาจจะสร้างความเดือดร้อนมากกว่าสิ่งที่ดูอันตรายชัดเจน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ยุงร้ายกว่าเสือ" ในประโยค
- พวกโจรปล้นร้านทองยังพอหนีและป้องกันตัวได้ แต่พวกมิจฉาชีพที่แฝงตัวมาเป็นคนรู้จักแล้วหลอกเอาเงินไปนี่ ยุงร้ายกว่าเสือจริงๆ
- นักการเมืองบางคนที่ดูนิ่มนวลพูดจาดี แต่ทุจริตงบประมาณจำนวนมหาศาล นับเป็นยุงร้ายกว่าเสือเลยทีเดียว
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี