มีคนนับถือ, มีเกียรติ, ได้รับความยกย่อง
ประเภทสำนวน
"มีหน้ามีตา" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีที่มีความหมายเฉพาะ ไม่สามารถแปลตรงตัวได้ เป็นการกล่าวถึงคุณลักษณะทางสังคมที่ต้องตีความเป็นพิเศษ ไม่ใช่คำสอนโดยตรงหรือการเปรียบเทียบชัดเจน
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้หมายถึง การมีเกียรติ มีชื่อเสียง ได้รับการยกย่องนับถือในสังคม เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป สถานภาพทางสังคมที่ได้รับการยอมรับ ซึ่งเป็นการนำอวัยวะ 'หน้า' และ 'ตา' มาใช้ในความหมายเชิงสถานะทางสังคม ไม่ใช่อวัยวะจริงๆ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "มีหน้ามีตา" ในประโยค
- เขาเป็นถึงผู้พิพากษา เป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม จะทำอะไรก็ต้องระมัดระวังภาพลักษณ์
- ตอนนี้ลูกชายคุณสมศรีประสบความสำเร็จทำธุรกิจใหญ่โต กลายเป็นคนมีหน้ามีตาในวงการ ทำให้ตระกูลได้รับการยอมรับมากขึ้น
- การที่บริษัทของเราได้รับรางวัลธุรกิจดีเด่น ทำให้องค์กรเรามีหน้ามีตาในแวดวงอุตสาหกรรมนี้
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี