ขอเลื่อนเวลาออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า.
ประเภทสำนวน
"ผัดวันประกันพรุ่ง" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเปรยที่มีความหมายแฝง ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรง แต่เปรียบเทียบถึงพฤติกรรมการผัดผ่อนหรือเลื่อนการกระทำออกไปเรื่อยๆ
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากการเลื่อนการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งออกไปเรื่อยๆ โดยใช้คำว่า 'ผัด' ในความหมายของการเลื่อน 'วัน' คือวันนี้ และ 'ประกัน' แปลว่า รับรอง 'พรุ่ง' คือวันพรุ่งนี้ รวมความแล้วคือ การเลื่อนเวลาทำงานจากวันนี้ไปเป็นวันพรุ่งนี้ แล้วก็เลื่อนต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่ลงมือทำจริง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ผัดวันประกันพรุ่ง" ในประโยค
- นักศึกษาคนนี้ชอบผัดวันประกันพรุ่งเรื่องการส่งงาน ทำให้ส่งไม่ทันกำหนดเสมอ
- งานบ้านหลายอย่างที่ต้องซ่อมแซม แต่เขาก็ผัดวันประกันพรุ่งมานานกว่าสามเดือนแล้ว จนตอนนี้ความเสียหายยิ่งมากขึ้น
- หากคุณเป็นคนที่ชอบผัดวันประกันพรุ่ง ควรปรับนิสัยเสียแต่วันนี้ อย่ารอให้ทุกอย่างสายเกินไป
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี