ปิดทองหลังพระ

คำพังเพย

หมายถึง ทำดีโดยไม่ต้องเป่าประกาศ

หมายเหตุ หรืออาจจะใช้ในประโยคทำนองพ้อว่าทำดีแล้วไม่มีใครรู้

หมายถึง ทำความดีแต่ไม่ได้รับการยกย่องเพราะไม่มีใครเห็นคุณค่า

ประเภทสำนวน

"ปิดทองหลังพระ" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า แม้จะเรียกกันในชีวิตประจำวันว่าเป็น 'สำนวน' แต่ในทางวิชาการจัดเป็นสุภาษิต เพราะมีลักษณะเป็นคำสอนที่ชัดเจน สอนให้ทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทนหรือคำชม เข้าใจความหมายได้โดยตรงไม่ต้องตีความมาก

ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง

มาจากการปิดทองที่ด้านหลังขององค์พระพุทธรูป ซึ่งเป็นส่วนที่คนมองไม่เห็น แต่ก็ยังมีผู้ศรัทธาปิดทองอย่างตั้งใจเพื่อสักการะบูชา ไม่ได้หวังให้ใครเห็นหรือชื่นชม สะท้อนแนวคิดทางพุทธศาสนาที่สอนให้ทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทนหรือคำชื่นชม

ตัวอย่างการใช้สำนวน "ปิดทองหลังพระ" ในประโยค

  • แม้จะไม่มีใครรู้ว่าคุณลุงบริจาคเงินช่วยเหลือเด็กกำพร้า แต่ท่านก็ยังทำต่อเนื่องมาเป็นสิบปี นี่แหละคือปิดทองหลังพระที่แท้จริง
  • คุณแม่ทำงานหนักเพื่อลูกทุกคนโดยไม่เคยบ่น แม้ไม่มีใครเห็นความเหนื่อยยาก นี่คือการปิดทองหลังพระที่สวยงามที่สุด

สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย

สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน

สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา

คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี

ประเภทสำนวน

"ปิดทองหลังพระ" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนโดยตรงที่มุ่งสอนให้ทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทนหรือคำชื่นชม มีความหมายชัดเจนในตัวเอง เป็นข้อคิดเชิงคุณธรรมที่สอนให้มีความเสียสละและไม่เห็นแก่หน้าตา

ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง

สำนวนนี้มีที่มาจากการปิดทองพระพุทธรูป โดยในสมัยก่อน การปิดทองด้านหน้าพระพุทธรูปจะมีคนเห็นและชื่นชม แต่การปิดทองด้านหลังพระพุทธรูปจะไม่มีใครได้เห็นหรือชื่นชม แต่ทองนั้นก็ยังคงมีค่าและงดงามเช่นเดียวกัน เปรียบเสมือนการทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทน แม้จะไม่มีคนเห็นหรือยกย่อง

ตัวอย่างการใช้สำนวน "ปิดทองหลังพระ" ในประโยค

  • ถึงแม้จะไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นผู้บริจาคเงินช่วยเหลือโรงเรียนในชนบท แต่เขาก็ภูมิใจที่ได้ปิดทองหลังพระ
  • คุณแม่ทำงานหนักเพื่อส่งลูกเรียน โดยไม่เคยเรียกร้องความกตัญญูใดๆ นับเป็นการปิดทองหลังพระที่ยิ่งใหญ่

สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย

สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน

สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา

คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี

ปิดทองหลังพระ หมายถึง?

พจนานุกรมไทย ปิดทองหลังพระ หมายถึง:

  1. (สํา) ก. ทําความดีแต่ไม่ได้รับการยกย่อง เพราะไม่มีใครเห็นคุณค่า.

 หมายเหตุ

คำพังเพย หมายถึง ถ้อยคำหรือข้อความที่กล่าวเป็นกลาง ๆ เพื่อให้ตีความเข้ากับเรื่อง มีความหมายแฝงอยู่ อาจเป็นคำที่ใช้สื่อในทางเปรียบเปรย หรือในทำนองเสียดสี เช่น กระต่ายตื่นตูม เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย

สำนวนไทย หมายถึง ถ้อยคำ กลุ่มคำ หรือประโยคที่ไม่ได้แปลความหมายตรง ๆ แต่มีความหมายเชิงเปรียบเทียบแฝงอยู่ เช่น สอนจระเข้ให้ว่ายนํ้า รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง

คำสุภาษิต หรือ สำนวนสุภาษิต คือ คำในภาษาไทยที่ใช้ในการสื่อสารเชิงเปรียบเทียบอุปมาอุปมัย มักมีความหมายในการตักเตือนสั่งสอนในทางบวก มีความหมายที่ดี เช่น รักยาวให้บั่นรักสั้นให้ต่อ น้ำเชี่ยวอย่าขวางเรือ

 ภาพประกอบปิดทองหลังพระ

  • คำพังเพย: ปิดทองหลังพระ หมายถึงอะไร?, หมายถึง ทำดีโดยไม่ต้องเป่าประกาศ หมายเหตุ หรืออาจจะใช้ในประโยคทำนองพ้อว่าทำดีแล้วไม่มีใครรู้ ศาสนา พระ คำกริยา ปิด สิ่งของ ทอง, พระพุทธรูป หมวด สุภาษิต
  • คำพังเพย: ปิดทองหลังพระ หมายถึงอะไร?, หมายถึง ทำความดีแต่ไม่ได้รับการยกย่องเพราะไม่มีใครเห็นคุณค่า ศาสนา พระ, พระพุทธรูป คำกริยา ปิด สิ่งของ ทอง หมวด สุภาษิต

 คำพังเพยที่คล้ายกัน