การพูดจาสำคัญกว่าวิชาหนังสือ
ประเภทสำนวน
"ปากเป็นเอกเลขเป็นโท" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนโดยตรงที่ให้ข้อคิดเกี่ยวกับการดำเนินชีวิต ให้คติว่าการพูดสำคัญแต่การจดบันทึกก็สำคัญรองลงมา มีความหมายที่ชัดเจนในตัวเอง ไม่ต้องตีความเพิ่มเติม
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้เป็นคำสอนเกี่ยวกับการทำธุรกิจหรือการค้าขาย ที่เน้นว่าการพูดคุยเจรจาเป็นเรื่องสำคัญที่สุด (เป็นเอก) แต่การจดบันทึกตัวเลขหรือข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรก็มีความสำคัญรองลงมา (เป็นโท) หมายความว่า ทั้งการพูดและการบันทึกมีความสำคัญ แต่ให้น้ำหนักความสำคัญต่างกัน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ปากเป็นเอกเลขเป็นโท" ในประโยค
- สอนลูกน้องใหม่ว่า ปากเป็นเอกเลขเป็นโท การเจรจาตกลงกับลูกค้าต้องพูดให้ดี แต่ก็อย่าลืมจดบันทึกรายละเอียดให้ชัดเจนด้วย
- พ่อค้าแม่ค้าที่ดีต้องยึดหลัก ปากเป็นเอกเลขเป็นโท พูดจาต้องน่าฟัง แต่การบันทึกรายการซื้อขายก็ต้องถูกต้อง
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี