บ้าสมบัติ เห็นอะไร ๆ เป็นของมีค่าจะเอาทั้งนั้น, อาการที่หอบหิ้วสิ่งของพะรุงพะรัง.
ประเภทสำนวน
"บ้าหอบฟาง" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยที่มีความหมายแฝง ต้องตีความ ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และมีโครงสร้างเป็นการเปรียบเทียบพฤติกรรม
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
เปรียบเปรยถึงคนที่ตื่นตระหนกกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จนเกินเหตุ หรือคนที่วิตกกังวลมากเกินกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เหมือนคนบ้าที่หอบฟางซึ่งเป็นของเบาและมีค่าน้อย แต่กลับแบกหามอย่างทุลักทุเล ราวกับเป็นของหนักหรือมีค่า แสดงถึงความไม่สมเหตุสมผลในการกระทำ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "บ้าหอบฟาง" ในประโยค
- แค่เสียงฟ้าร้องนิดเดียว เธอก็กระโดดโหยงเหมือนบ้าหอบฟางไปได้
- อย่าบ้าหอบฟางไปหน่อยเลย แค่ข่าวลือเท่านั้น ยังไม่มีหลักฐานอะไรเลย
- แม่ค้าตลาดนัดพากันบ้าหอบฟาง แห่ซื้อทองกันเพราะข่าวลือว่าราคาจะขึ้น ทั้งที่ยังไม่มีข้อมูลชัดเจน
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี