มีท่าทางดี แต่ทําอะไรไม่ได้เรื่อง.
มีท่าทางดีแต่ทำอะไรไม่ได้เรื่อง
ประเภทสำนวน
"ท่าดีทีเหลว" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า สำนวนนี้มีลักษณะเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพและต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงแบบสุภาษิต และไม่ใช่คำที่มีความหมายเฉพาะที่แปลตรงตัวไม่ได้แบบสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
เป็นคำพังเพยที่มาจากการทำท่าหรือเตรียมการอย่างยิ่งใหญ่ ดูดีมีหวัง แต่เมื่อถึงเวลาลงมือทำจริงกลับทำได้ไม่ดีหรือล้มเหลว เปรียบเสมือนการแสดงท่าทีที่ดูเข้มแข็ง แต่พอถึงเวลาจริงกลับอ่อนแอหรือทำได้ไม่ดีอย่างที่คาดหวัง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ท่าดีทีเหลว" ในประโยค
- เขาพูดโม้ว่าจะทำโปรเจคนี้ให้ยอดเยี่ยม แต่พอถึงเวลาส่งงานกลับทำได้แย่มาก นี่แหละท่าดีทีเหลว
- ทีมฟุตบอลนี้ตอนซ้อมเล่นได้ดีมาก แต่พอลงแข่งขันจริงกลับเล่นได้แย่มาก เรียกได้ว่าท่าดีทีเหลวจริงๆ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"ท่าดีทีเหลว" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยถึงการแสดงท่าทีดีแต่ผลลัพธ์ออกมาไม่ดี มีลักษณะการเปรียบเทียบสถานการณ์ที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่คำหรือวลีเฉพาะที่ไม่สามารถแปลตรงตัวได้เหมือนสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากการเล่นของเด็ก ๆ หรือการแสดงท่วงท่าต่าง ๆ เช่น กีฬา การแสดง ที่เริ่มต้นด้วยท่าทางที่ดูดี น่าประทับใจ แต่สุดท้ายกลับทำได้ไม่ดี ล้มเหลว หรือ 'เหลว' ไปเสียก่อน ใช้เปรียบเทียบถึงการเริ่มต้นที่ดูมีแวว มีการวางแผนหรือเตรียมการอย่างดี แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ท่าดีทีเหลว" ในประโยค
- เขาพูดได้เพราะเหลือเกิน แต่พอถึงเวลาทำจริงกลับไม่ทำตามที่พูดไว้เลย ท่าดีทีเหลวจริง ๆ
- โครงการนี้ตั้งเป้าหมายไว้ใหญ่โต มีงบประมาณมหาศาล แต่สุดท้ายกลับทำได้แค่เศษเสี้ยว ท่าดีทีเหลวอย่างที่เห็น
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี