ในห้องที่มีแต่ความมืด ผู้หญิงย่อมมีความงาม น่าชื่นชมกันทั้งหมด
เมื่อสิ้นแสงเทียนส่องห้องสว่าง นางทุกนางสวยสมอุดมศรี เพราะความมืดอำนวยความสวยดี ทุกนารีงามสรรพเมื่อดับเทียนจาก นิทานกลอนพาไป พระนิพนธ์กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์
ประเภทสำนวน
"ทุกนารีงามสรรพเมื่อดับเทียน" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นถ้อยคำที่มีลักษณะเปรียบเทียบหรือเปรียบเปรย มีความหมายแฝงที่ต้องตีความเพิ่มเติม และมีลักษณะเป็นข้อสังเกตเกี่ยวกับพฤติกรรมหรือสถานการณ์ ไม่ใช่คำสอนโดยตรง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้สะท้อนแนวคิดเกี่ยวกับการมองความงามที่ไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณ์ภายนอกที่แท้จริง แต่เกิดจากการมองไม่เห็นหรือมองไม่ชัด ในความมืด ความแตกต่างทางรูปลักษณ์ภายนอกจะถูกกลบหายไป ทำให้ไม่สามารถมองเห็นข้อบกพร่องหรือแยกแยะความงามที่แท้จริงได้
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ทุกนารีงามสรรพเมื่อดับเทียน" ในประโยค
- หนุ่มๆ ที่ชอบสาวในผับหลายคนน่าจะรู้สำนวนทุกนารีงามสรรพเมื่อดับเทียน ดี แสงสลัวทำให้มองไม่เห็นข้อบกพร่อง
- อย่าเพิ่งตัดสินรูปลักษณ์ในห้องมืด เพราะทุกนารีงามสรรพเมื่อดับเทียน ควรดูให้ชัดในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี