ทำบุญอวดผู้อื่นไม่ใช่ทำด้วย
ประเภทสำนวน
"ทำบุญเอาหน้า" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นการเปรียบเปรยพฤติกรรมของคนที่มีลักษณะเฉพาะ มีความหมายแฝงเชิงเตือนหรือวิจารณ์ ไม่ใช่คำสอนโดยตรง ต้องตีความและไม่ได้เป็นคำหรือวลีเฉพาะที่แปลตรงตัวไม่ได้
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้กล่าวถึงการทำบุญหรือทำความดีด้วยความมุ่งหวังเพื่อให้คนอื่นเห็นและยกย่องสรรเสริญ ไม่ได้ทำด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์หรือเพื่อสร้างกุศลอย่างแท้จริง แต่เน้นเรื่องภาพลักษณ์หรือชื่อเสียงเป็นหลัก สะท้อนถึงความหน้าไหว้หลังหลอกและการกระทำที่ไม่จริงใจ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ทำบุญเอาหน้า" ในประโยค
- นักการเมืองคนนั้นชอบบริจาคเงินแล้วเรียกสื่อมาถ่ายรูป ชาวบ้านพากันมองว่าเป็นการทำบุญเอาหน้ามากกว่าช่วยเหลือจริงๆ
- คุณเขาแค่ทำบุญเอาหน้า จัดงานใหญ่โตแต่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องคุณภาพการช่วยเหลือจริงๆ
- การบริจาคสิ่งของที่ไม่มีคุณภาพแล้วโพสต์ลงโซเชียลเพื่อให้คนชื่นชม เป็นการทำบุญเอาหน้าที่ไม่ได้เกิดประโยชน์แท้จริง
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี