ทำคุณแต่กลับเป็นโทษ, ทำดีแต่ได้ผลร้าย, มักพูดคู่กับ โปรดสัตว์ได้บาป เป็น ทำคุณบูชาโทษ โปรดสัตว์ได้บาป
ประเภทสำนวน
"ทำคุณบูชาโทษ" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นถ้อยคำที่มีลักษณะการเปรียบเปรย มีความหมายแฝงที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่วลีเฉพาะที่แปลตรงตัวไม่ได้เหมือนสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้มีความหมายว่า การทำความดีหรือช่วยเหลือผู้อื่น แต่กลับได้รับผลตอบแทนเป็นความเลวร้ายหรือถูกลงโทษ เปรียบเหมือนการทำบุญแต่กลับได้รับกรรม มีแนวคิดเกี่ยวกับความอกตัญญูและความไม่ยุติธรรมในสังคม
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ทำคุณบูชาโทษ" ในประโยค
- นายแดงช่วยเหลือคนเร่ร่อนโดยให้มาพักที่บ้าน แต่คนคนนั้นกลับขโมยทรัพย์สินหนีไป นี่แหละที่เรียกว่าทำคุณบูชาโทษ
- บริษัทให้โอกาสพนักงานที่เคยทำผิดกลับมาทำงานอีกครั้ง แต่เขากลับนำความลับบริษัทไปขายให้คู่แข่ง จึงเป็นการทำคุณบูชาโทษ
- ฉันช่วยให้เธอได้เข้าทำงานในบริษัทนี้ แต่เธอกลับพูดใส่ร้ายฉันกับเจ้านาย นี่เรียกว่าทำคุณบูชาโทษชัดๆ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี