ต่างฝ่ายต่างพึ่งพาอาศัยกัน
ประเภทสำนวน
"ถ้อยที่ถ้อยอาศัย" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนโดยตรงที่ให้ข้อคิดเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันในสังคม มีความชัดเจนในตัวเอง ไม่ต้องตีความซับซ้อน แสดงหลักการดำเนินชีวิตที่ดีงาม สอดคล้องกับทำนองคลองธรรม
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สอนให้รู้จักช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน พึ่งพาอาศัยกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน คำว่า 'ถ้อย' ในที่นี้หมายถึง การช่วยเหลือ หรือการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ สะท้อนหลักการพึ่งพาอาศัยกันแบบคนไทย ที่มีวัฒนธรรมการช่วยเหลือเกื้อกูลเป็นรากฐานของสังคม
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ถ้อยที่ถ้อยอาศัย" ในประโยค
- ชาวนาในสมัยก่อนจะมีประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าว เป็นการถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน จึงทำให้งานเสร็จเร็วและมีความสนุกสนาน
- คนในชุมชนเล็กๆ มักอยู่กันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย เมื่อเพื่อนบ้านมีงานก็ไปช่วย เมื่อตัวเองมีงานคนอื่นก็มาช่วยเช่นกัน
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี