เป็นสำนวน สุภาษิตสอนหญิง ให้มีค่านิยม ตื่นนอนก่อนสามี แต่เข้านอนทีหลังสามี เพื่อใช้เวลาทำงานบ้านงานเรือน ปรนนิบัติสามี
ค่านิยมสมัยก่อน
ตื่นก่อนนอนทีหลัง
ประเภทสำนวน
"ตื่นก่อนนอนหลัง" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนที่ให้ข้อคิดโดยตรงและชัดเจน เกี่ยวกับการดำเนินชีวิต โดยสอนเรื่องความขยันหมั่นเพียร ไม่ต้องตีความเพิ่มเติม คำกล่าวนี้มีความสมบูรณ์ในตัวเองและให้แนวทางการปฏิบัติที่ดี
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้สอนให้เป็นคนขยันหมั่นเพียร โดยตื่นแต่เช้าเพื่อทำงานก่อนคนอื่น และเลิกพักผ่อนช้ากว่าคนอื่น ซึ่งแสดงถึงการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ เป็นลักษณะของคนที่ทุ่มเทให้กับการทำงานหรือหน้าที่ของตน คนที่ประพฤติปฏิบัติเช่นนี้ย่อมประสบความสำเร็จในชีวิตได้
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ตื่นก่อนนอนหลัง" ในประโยค
- คุณปู่ของฉันตื่นก่อนนอนหลังทุกวัน จึงสามารถสร้างฐานะจากชาวนาธรรมดาจนกลายเป็นเจ้าของที่ดินหลายร้อยไร่
- เจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ยึดหลักตื่นก่อนนอนหลัง เพื่อให้มีเวลาทำงานมากกว่าคู่แข่ง
- หากอยากประสบความสำเร็จในการเรียน อาจารย์แนะนำให้นักศึกษาทุกคนใช้หลักตื่นก่อนนอนหลัง เพื่อมีเวลาทบทวนบทเรียนมากขึ้น
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี