ตำหนิงานหรือของที่ทำ ทั้ง ๆ ที่งานนั้นเพิ่งเริ่มไปได้ไม่นานหรือทำไปได้เพียงเล็กน้อย
ติพล่อย ๆ ตำหนิในสิ่งที่เขายังทำไม่เสร็จ
การตำหนิหรือวิพากย์วิจารณ์งานที่ยังทำไม่เสร็จหรือเริ่มทำไปได้ไม่นาน ยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็ติเสียก่อนแล้ว
ประเภทสำนวน
"ติเรือทั้งโกลน" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเทียบที่มีความหมายแฝง ต้องตีความเพิ่มเติม เปรียบเปรยพฤติกรรมการวิจารณ์งานที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากการต่อเรือในสมัยโบราณ 'โกลน' คือรูปทรงคร่าวๆ ของเรือที่เพิ่งถูกขึ้นโครงในระยะแรก ยังไม่ได้ตกแต่งให้สมบูรณ์ การ 'ติเรือทั้งโกลน' จึงหมายถึงการวิจารณ์หรือตำหนิงานที่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งเป็นการด่วนสรุปและไม่ยุติธรรม เพราะยังมองไม่เห็นผลงานที่สมบูรณ์
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ติเรือทั้งโกลน" ในประโยค
- แค่เห็นลูกเริ่มทำโครงงานวันแรก แม่ก็บอกว่าทำไม่ได้แน่ๆ นี่มันติเรือทั้งโกลนชัดๆ
- อย่าเพิ่งติเรือทั้งโกลน เลยครับ ผมพึ่งนำเสนอแนวคิดเบื้องต้นเท่านั้น ยังมีรายละเอียดอีกมากที่จะต้องพัฒนา
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"ติเรือทั้งโกลน" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นถ้อยคำเปรียบเปรยที่มีความหมายแฝง ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่คำเฉพาะที่แปลตรงตัวไม่ได้เหมือนสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำว่า 'โกลน' หมายถึง เรือที่เพิ่งถากขึ้นรูปอย่างหยาบๆ ยังไม่ได้ตกแต่งให้เรียบร้อย เป็นเพียงขั้นเริ่มต้นของการต่อเรือ การติเรือทั้งโกลน คือการวิจารณ์หรือตำหนิงานที่เพิ่งเริ่มทำ ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งเป็นการด่วนตัดสินและไม่ยุติธรรม เพราะงานยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ติเรือทั้งโกลน" ในประโยค
- น้องเพิ่งนำเสนอโครงร่างวิทยานิพนธ์ครั้งแรก อาจารย์ไม่ควรติเรือทั้งโกลน แต่ควรแนะนำให้ปรับปรุงต่อไป
- แผนธุรกิจนี้เพิ่งร่างขึ้นมา อย่าเพิ่งติเรือทั้งโกลน รอให้มีการพัฒนารายละเอียดเพิ่มเติมก่อน
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"ติเรือทั้งโกลน" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยที่มีความหมายแฝง ต้องตีความเพิ่มเติม มีโครงสร้างเป็นการเปรียบเทียบสถานการณ์หรือการกระทำ ไม่ใช่คำสอนโดยตรงหรือสำนวนที่ต้องแปลความหมายเฉพาะ
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากการต่อเรือ โดย 'โกลน' หมายถึง เรือที่ถากหรือขุดเป็นรูปร่างคร่าวๆ ยังไม่ได้ตกแต่งให้เรียบร้อย การติเรือทั้งโกลน จึงหมายถึงการวิจารณ์หรือตำหนิงานที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ยังอยู่ในขั้นตอนการทำ ซึ่งเป็นการด่วนตัดสินที่ไม่เหมาะสม
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ติเรือทั้งโกลน" ในประโยค
- คุณอย่าเพิ่งติเรือทั้งโกลนสิครับ โครงการนี้เพิ่งเริ่มต้น ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ รอดูผลงานตอนจบก่อนค่อยวิจารณ์
- เธอดูแล้วบอกว่าผลงานไม่ดีทั้งที่ฉันเพิ่งทำได้แค่ครึ่งเดียว นี่มันติเรือทั้งโกลนชัดๆ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี