ได้รับสิ่งของที่มีคนเขาให้มาแต่ตัวเองไม่มีปัญญาจะใช้เช่นมีคนให้พัดลมมาแต่ที่บ้านไม่มีไฟฟ้าเป็นต้น
ประเภทสำนวน
"ตาบอดได้แว่น" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นการเปรียบเทียบแฝงความหมายที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงแบบสุภาษิต และไม่ใช่คำเฉพาะที่แปลตรงตัวไม่ได้แบบสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้กล่าวถึงการที่คนตาบอดได้รับแว่นตา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถช่วยให้เขามองเห็นได้ เพราะปัญหาไม่ได้อยู่ที่แว่น แต่อยู่ที่ดวงตาที่มองไม่เห็น เปรียบเหมือนคนที่ได้รับสิ่งที่มีค่าหรือมีประโยชน์ แต่ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งนั้นได้เลย เนื่องจากขาดความรู้ความสามารถพื้นฐานที่จำเป็น
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ตาบอดได้แว่น" ในประโยค
- พนักงานใหม่คนนั้นได้คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุดไปใช้ แต่เขากลับใช้งานไม่เป็นเลยสักอย่าง เหมือนตาบอดได้แว่นเลยทีเดียว
- การให้เครื่องมือราคาแพงกับคนที่ไม่มีความรู้พื้นฐานในการใช้งาน ก็เหมือนกับตาบอดได้แว่น เป็นการลงทุนที่สูญเปล่า
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"ตาบอดได้แว่น" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเทียบสถานการณ์ที่มีความหมายแฝง ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่เพียงวลีที่มีความหมายเฉพาะแบบสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้เปรียบเทียบคนที่ได้รับสิ่งที่มีประโยชน์แต่ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งนั้นได้ เหมือนคนตาบอดที่ได้รับแว่นตาซึ่งไม่สามารถช่วยให้มองเห็นได้ แสดงถึงความไม่เหมาะสมหรือการได้รับสิ่งที่ไม่สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ตาบอดได้แว่น" ในประโยค
- เขาซื้อโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ล่าสุดให้คุณยายที่ไม่เคยใช้คอมพิวเตอร์มาก่อน นี่มันตาบอดได้แว่นชัด ๆ
- การส่งผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัลไปช่วยธุรกิจที่ไม่มีแม้แต่ระบบคอมพิวเตอร์พื้นฐาน เหมือนกับตาบอดได้แว่นไม่มีผิด
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี