จะให้อะไรแก่ใคร เมื่อทราบว่าเขาเต็มใจรับอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องถามว่าจะเอาไหม
ประเภทสำนวน
"ตักบาตรอย่าถามพระ" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนโดยตรงที่ชัดเจน มีความสมบูรณ์ในตัวเอง ให้ข้อคิดเรื่องการทำบุญทำทานที่ถูกต้อง ไม่ต้องตีความเพิ่มเติม
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้สอนว่า เมื่อทำบุญตักบาตรหรือให้ทานแล้ว ไม่ควรไถ่ถามหรือกำหนดว่าพระจะนำของที่ตนถวายไปใช้อย่างไร เพราะเป็นการทำลายอานิสงส์ของการทำบุญและไม่ถือว่าเป็นการสละออกไปอย่างแท้จริง มีที่มาจากหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเรื่องการให้ทานที่บริสุทธิ์
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ตักบาตรอย่าถามพระ" ในประโยค
- หลังจากตักบาตรเสร็จ นางแนบก็ถามพระว่าจะเอาอาหารไปทำอะไร แม่ต้องเตือนว่า ตักบาตรอย่าถามพระ ของที่ถวายไปแล้วก็ปล่อยวางเถอะ
- การช่วยเหลือคนอื่นก็เหมือนกับตักบาตรอย่าถามพระ เมื่อให้แล้วก็ไม่ควรไปกำหนดว่าเขาต้องทำอะไรกับสิ่งที่เราให้
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี