ให้รู้จักเจียมเนื้อเจียมตัวไว้บ้าง
การจะทำอะไรให้รู้จักประมาณตน รู้จักฐานะของตัวเอง เจียมเนื้อเจียมตัว อย่ามักใหญ่ใฝ่สูงทำที่อะไรเกินตัว
ตักน้ำใส่กระโหลกชะโงกดูเงา : กระโหลก เขียนผิด ต้องเป็น กะโหลก
ประเภทสำนวน
"ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงา" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นข้อความที่ให้คำสอนหรือข้อคิดโดยตรงเกี่ยวกับความไม่รู้จักประมาณตน การหลงตัวเอง มีลักษณะเป็นคำสอนที่ชัดเจน
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้มีที่มาจากพฤติกรรมของคนที่ตักน้ำใส่กะโหลก (ภาชนะที่ทำจากกะลามะพร้าว) แล้วก้มลงมองดูเงาของตัวเองในน้ำนั้น สะท้อนถึงคนที่ชอบชื่นชมตัวเองหรือหลงตัวเอง จนลืมคิดถึงสิ่งอื่น เป็นคำสอนให้ระวังความหลงตัว และการมัวแต่พะวงกับรูปลักษณ์หรือความเป็นตัวตนของตนเองจนเกินไป
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงา" ในประโยค
- นักการเมืองคนนั้นเอาแต่สนใจภาพลักษณ์ของตัวเอง เหมือนตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงา จนลืมทำงานเพื่อประชาชนอย่างที่สัญญาไว้
- พอได้ตำแหน่งผู้จัดการใหม่ๆ ก็เริ่มตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงา จนลืมว่าความสำเร็จเกิดจากการทำงานเป็นทีม
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงา" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนโดยตรงที่เตือนไม่ให้คนหลงตัวเอง มีข้อคิดคำสอนที่ชัดเจน ฟังแล้วเข้าใจได้ทันที
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้มีที่มาจากเรื่องราวเกี่ยวกับ นางมัทนา ในวรรณคดีเรื่อง 'มัทนะพาธา' ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งชอบส่องดูเงาตัวเองในน้ำ และหลงในความงามของตน สุภาษิตนี้สอนมิให้คนเรายึดติดกับรูปลักษณ์ภายนอก หรือหลงชื่นชมตนเองมากเกินไป เพราะความงามเป็นสิ่งไม่เที่ยง และเป็นเพียงภาพลวงตา
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงา" ในประโยค
- หญิงสาวที่ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงา สุดท้ายก็มีแต่ความว่างเปล่า เพราะความงามเป็นสิ่งไม่จีรัง
- พ่อแม่มักสอนลูกสาวว่าอย่าตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงา ให้รู้จักพัฒนาตนทั้งความรู้และคุณธรรม
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี