ประเภทสำนวน
"ตกใต้เถรเทวทัต" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีเฉพาะที่ไม่สามารถแปลความหมายได้ตรงตัว ต้องเข้าใจความหมายเฉพาะในภาษาไทย ไม่ได้เป็นคำสอนโดยตรง (สุภาษิต) หรือคำเปรียบเทียบที่มีความหมายแฝง (คำพังเพย)
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากพระเทวทัต ซึ่งเป็นพระภิกษุผู้ริษยาและพยายามปองร้ายพระพุทธเจ้า ในตำนานกล่าวว่าพระเทวทัตถูกแผ่นดินสูบลงไปในนรก ดังนั้น 'ตกใต้เถรเทวทัต' จึงหมายถึงการตกต่ำมาก หรือตกอยู่ในสภาพที่เลวร้ายสุดๆ ต่ำกว่าคนที่แย่อยู่แล้ว
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ตกใต้เถรเทวทัต" ในประโยค
- นักการเมืองที่คดโกงเงินบริจาคช่วยผู้ประสบภัย จนถูกจำคุกและถูกประณามจากสังคม ถือว่าตกใต้เถรเทวทัตแล้ว
- หลังจากทำผิดพลาดครั้งใหญ่ในการบริหารบริษัท ทำให้เขาตกใต้เถรเทวทัต จากเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จกลายเป็นคนล้มละลายและไร้ที่ยืน
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี